FETP คืออะไร?
Field Epidemiology Training Program (FETP) คือโครงการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านเฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ป้องกัน (แขนงระบาดวิทยา) ดำเนินการโดยสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. โครงการฯ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2523 จากความร่วมมือของกระทรวงสาธารณสุข องค์การอนามัยโลก และศูนย์ควบคุมโรคแห่งชาติ (CDC) สหรัฐอเมริกา. โครงการฯได้รับอนุมัติจากแพทยสภาให้เป็นสาขาเฉพาะทางตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 เป็นต้นมา.
ที่มาของแนวคิด FETP
CDC สหรัฐอเมริกา ได้จัดตั้งหน่วยฝึกอบรมนักระบาดวิทยาขึ้นภายในหน่วยงานของ CDC เองมานานกว่า 50 ปีแล้ว โดยปรัชญาของการฝึกอบรมคือ การเรียนรู้งานระบาดวิทยาโดยผ่านการฝึกปฏิบัติในภาคสนาม ภายใต้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดของผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาของโรคในสาขาต่างๆ. การฝึกอบรมดังกล่าวในสหรัฐอเมริกามีชื่อโครงการว่า Epidemic Intelligence Service (EIS) Program.
ประเทศไทยได้ประยุกต์แนวคิดดังกล่าวถือเป็นประเทศแรกนอกประเทศสหรัฐอเมริกานำมาจัดตั้งโครงการฯ ปัจจุบันมีประเทศต่างๆ มากกว่า 30 ประเทศที่มีโครงการ FETP.
ยุคเริ่มต้น
นายแพทย์สุชาติ เจตนเสน ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยาท่านแรกร่วมกับนายแพทย์ประยูร กุนาศล นักวิชาการแพทย์ในกองระบาดวิทยาสมัยนั้น และนายแพทย์วิชิต มธุรสภาษณ์ นักวิชาการแพทย์ในกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรคติดต่อ ร่วมกันรับผิดชอบในการประสานงานให้เกิดโครงการฯ ขึ้นมา.ใน 3 ปีแรก Dr. David Brandling-Bennett (พ.ศ. 2523-2526) และ Dr. Bruce Weniger (พ.ศ. 2526-2528) จากนั้นประเทศไทยก็เข้าสู่ยุคพึ่งพาตนเองโดยดำเนินโครงการฯ ด้วยคนไทยทั้งหมด ทั้งด้านการบริหารจัดการโครงการฯ และด้านวิชาการ.
ยุคพึ่งพาตนเอง
ความพยายามพึ่งตนเองค่อยๆคลี่คลายโดยลำดับดังนี้
1. การส่งแพทย์ให้ไปฝึกอบรมต่างประเทศ
แพทย์ที่สำเร็จจากโครงการฯ ในรุ่นที่ 1 คือ นายแพทย์ครรชิต ลิมปกาญจนารัตน์ ได้รับคัดเลือกไปศูนย์ควบคุมโรคแห่งชาติ แอตแลนต้า ประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อเข้าฝึกอบรมในโครงการ Epidemic Intelligence Service (EIS) Program เป็นเวลา 2 ปี (พ.ศ. 2525-2526). เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วนายแพทย์ครรชิต ได้กลับมารับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาโครงการฯโดยมีระยะเวลาที่ทำงานคู่ขนานกับที่ปรึกษาชาวอเมริกัน คือ Dr. Bruce Weniger อยู่อีกประมาณเกือบ 1 ปี เป็นการส่งมอบงานที่ผ่านไปอย่างราบรื่นจนเป็นรูปแบบที่อีกหลายประเทศได้ดำเนินการตาม. ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยาในขณะนั้นคือ นายแพทย์ประยูร กุนาศล ร่วมรับผิดชอบการฝึกอบรมกับที่ปรึกษาอย่างใกล้ชิด ทั้งด้านการวางแผนและการบริหารจัดการ.
2. การผลักดันโครงการฯ ให้มีสถานะเป็นหน่วยงานราชการ
ขั้นตอนนี้ต้องใช้ความอุตสาหะเป็นอย่างสูงของผู้บริหารจนกระทั่งโครงการฯได้รับสถานะให้เป็นส่วนหนึ่งในฝ่ายพัฒนานักระบาดวิทยาที่มีหน้าที่ในการฝึกอบรมนักระบาดวิทยาในทุกระดับตั้งแต่ แพทย์ (FETP) นักวิชาการสาธารณสุข นักระบาดวิทยาประจำจังหวัด. ประโยชน์ที่เกิดขึ้นคือ โครงการฯ สามารถตั้งตำแหน่งข้าราชการประจำ และมีงบประมาณของทางราชการมาสนับสนุนการดำเนินงานเสริมกับงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลกที่ได้รับอยู่เดิม อนึ่งงบประมาณสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลกได้ลดลงเป็นลำดับตามแผนแต่เสริมด้วยงบประมาณของรัฐบาลไทยที่เพิ่มขึ้น ทำให้สามารถกล่าวได้ว่าความพยายามส่วนนี้ช่วยให้โครงการพึ่งพาตนเองได้ดีขึ้น.
3. การผลักดันให้ผู้ที่จบจากโครงการฝึกอบรมแพทย์ในสาขาระบาดวิทยาเป็นสาขาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
แพทยสภาได้อนุมัติให้แพทย์ที่สำเร็จการการฝึกอบรมจากโครงการฯ ที่มีปริญญาโทด้านสาธารณสุขศาสตร์ ให้มีสิทธิในการสมัครสอบวุฒิบัตรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาเวชศาสตร์ป้องกัน (แขนงระบาดวิทยา) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 เป็นต้นมา.
4. การเปลี่ยนสถานะจาก "พึ่งพา" เป็น "ความร่วมมือ" กับสถาบันต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ
ความร่วมมือปรากฏในด้านการเฝ้าระวังโรค การสอบสวนโรค การศึกษาวิจัย และการฝึกอบรมด้านระบาดวิทยาแก่บุคลากรในระดับต่างๆ นอกจากนี้ยังได้ประสานงานกับศูนย์ควบคุมโรคแห่งชาติในการส่งอาจารย์จากคณะสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยต่างๆ ของสหรัฐอเมริกามาร่วมเป็นที่ปรึกษาแก่แพทย์ประจำบ้าน.
FETP กับการฝึกอบรมแพทย์นานาชาติ
FETP ได้ก้าวหน้าไปสู่การฝึกอบรมแพทย์นานาชาติในปี พ.ศ. 2541 โดยการนำของนายแพทย์สมศักดิ์ วัฒนศรี ศิษย์เก่า FETP คนแรกที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการกองระบาดวิทยาในปี พ.ศ. 2539. จุดเน้นอยู่ที่สมรรถนะทางระบาดวิทยา เพื่อรับมือกับโรคติดเชื้ออุบัติใหม่.
การประชุมร่างแผนปฏิบัติการสำหรับเครือข่ายเฝ้าระวังโรคของอาเซียนที่ต่อมาส่งมอบให้กองระบาดวิทยาประเทศไทยรับหน้าที่เป็นศูนย์ฝึกอบรมแพทย์ FETP นานาชาติโดยการรับรองของ WHO และ ASEAN นับจากปี พ.ศ. 2541 จนปัจจุบันมีแพทย์ FETP นานาชาติ 15 คนจาก 6 ประเทศ คือ จีน พม่า มาเลเซีย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม. ผลผลิตของการฝึกอบรมแพทย์จากประเทศใกล้เคียงได้รับการยอมรับในเวทีระดับนานาชาติจนกระทั่งได้รับหนังสือชมเชยจากผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาของ CDC ประเทศสหรัฐอเมริการว่ามีมาตรฐานเป็นผลให้ได้รับการสนับสนุนด้านผู้เชี่ยวชาญ ทุนวิจัย การศึกษาดูงาน การเขียนผลงานตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติ ฯลฯ อย่างต่อเนื่อง. นอกจากนั้นแล้วแพทย์ที่จบไปยังเป็นกำลังสำคัญในการผลิตนักระบาดวิทยาให้กับประเทศของตนโดยเฉพาะประเทศมาเลเซียมีการก่อตั้งการฝึก อบรมแพทย์ FETP เกิดขึ้นโดยมีแพทย์ชาวมาเลเซียที่เป็นผลผลิตของการฝึกอบรมแพทย์ FETP นานาชาติจากประเทศไทยทำการควบคุมและเป็นผู้ฝึกอบรมแพทย์ในประเทศมาเลเซียเอง.
องค์ประกอบที่สำคัญสู่ความสำเร็จคือเจตนาที่ดีงาม ความเพียรของสมาชิกครอบครัวแพทย์ FETP ในประเทศไทยตลอดจนการสนับสนุนจากอาจารย์ผู้ใหญ่และกัลยาณมิตรทั้งในและนอกประเทศ.
ส่งท้าย
ประเทศไทยได้ดำเนินการฝึกอบรมแพทย์ทางระบาดวิทยามาครบ 25 ปี ในปี พ.ศ. 2548 การฝึกอบรมได้สร้างนักระบาดวิทยาที่สามารถมีบทบาทเคียงบ่าเคียงไหล่กับบุคลากรทางสาธารณสุขแขนงต่างๆ ในการป้องกันควบคุมโรคของประเทศตั้งแต่การเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา การสอบสวนโรคและการวิจัยในโรคต่างๆ ได้แก่ โรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน โรคเอดส์ โรคไม่ติดต่อ อุบัติเหตุและการบาดเจ็บ โรคที่เกิดจากการประกอบอาชีพ ตลอดจนการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการวางแผนควบคุมการระบาดของโรคซาร์ส ไข้หวัดนก. การจัดตั้งระบบเฝ้าระวังโรคและการสอบสวนโรคโดยหน่วยเคลื่อนที่เร็วในเหตุการณ์วิปโยคจากคลื่นสึนามิ ได้ทำให้ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขผลักดันนโยบายการเพิ่มกำลังการผลิต นักระบาดวิทยาจาก 7 คนต่อปีในขณะนี้ขึ้นมาเป็น 20 คนต่อปี ในอีก 10 ปีข้างหน้าเป็นอย่างน้อย.
ครรชิต ลิมปกาญจนารัตน์ พ.บ., M.P.H.,โครงการโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐด้านสาธารณสุข
- อ่าน 4,570 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้