Q : น้ำตาเทียมมีประโยชน์สำหรับคนปกติหรือไม่
A : น้ำตาเทียมที่มีวางขายอยู่มากมายหลายยี่ห้อในร้านขายยา เป็นยาหยอดตาประเภทหนึ่งซึ่งช่วย เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตาของเรา ถ้าเปรียบเทียบ คงคล้ายน้ำมันหล่อลื่นซึ่งมีความสำคัญสำหรับเครื่องยนต์ ทุกชนิด รวมถึงดวงตาของมนุษย์ที่ต้องมีการกระพริบถึงนาทีละ 10-15 ครั้ง เพื่อให้น้ำหล่อเลี้ยงลูกตามาฉาบดวงตา. ดังนั้น ในคนปกติทั่วไปที่มีความรู้สึกเคืองตา ฝืดตา รู้สึกมีน้ำตาเหนียวๆเกาะหางตา หรือรู้สึกเหมือนมีฝุ่นระคายเคืองตาน่าจะมาจากภาวะที่เรียกว่า "ภาวะตาแห้ง" หรือ dry eye การใช้น้ำตาเทียมหยอดตาจะทำให้รู้สึกสบายตา และลดอาการดังกล่าวได้.
Q : ใครสมควรต้องใช้น้ำตาเทียม
A : กลุ่มคนที่มีปัญหาน้ำหล่อเลี้ยงลูกตาแห้ง โดยทั่วไปมักพบในผู้สูงอายุที่ต่อมน้ำตาทำงานลดลงตามอายุ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุเพศหญิงที่หมดประจำเดือนจะทำให้น้ำหล่อเลี้ยงลูกตาลดลงกว่าคนทั่วไป.
คนอีกกลุ่มที่มักมีปัญหาตาแห้ง คือ คนที่ทำงานกลางแดด ถูกลมพัด หรือทำงานในอากาศร้อน แห้ง เพราะจะทำให้น้ำหล่อเลี้ยงลูกตาระเหยออกไปมากกว่าปกติ.
คนอีกกลุ่มที่พบได้บ่อยในปัจจุบันคือ คนที่ต้องทำงานเกี่ยวกับจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ อาจเกิดจากการใช้สมาธิในการทำงาน ทำให้มีการกระพริบตาน้อยกว่าภาวะปกติ ซึ่งควรมีการกระพริบตาประมาณ 10-15 ครั้งต่อนาทีเพื่อป้องกันภาวะตาแห้ง หรือเมื่อรู้สึกเคืองตา แสบตา ให้หลับตาพัก 3-5 วินาที เพื่อให้น้ำหล่อเลี้ยงลูกตาจากเปลือกตาบนด้านในมาฉาบให้ความชุ่มชื้นต่อลูกตา แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้น อาจจำเป็นต้องใช้ยาหยอดตาชนิดน้ำหล่อเลี้ยงลูกตาเทียมเพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว.
Q : น้ำตาเทียมที่มีขายอยู่มากมายตอนนี้คืออะไร
A : น้ำตาเทียมที่มีขายอยู่ในปัจจุบัน แบ่งตามชนิดของยาออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่ 1. Cellulose ethers เช่น Methyl cellulose, hydroxypropyl methylcellulose.
กลุ่มที่ 2. Polyvinyl alcohol.
กลุ่มที่ 3 Formulations หรือ multiple component อื่นๆ เช่น viscoelastic substances.
ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มแม้จะเป็นสารต่างๆ แต่โดยทั่วไปมักไม่ก่อให้เกิดความระคายเคืองกับดวงตา จึงปลอดภัยกับตามากกว่าการใช้น้ำยาล้างตา ซึ่งมักประกอบด้วยสารต่างๆซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายต่อดวงตาได้มากกว่า.
Q : คนทั่วไปสามารถหาซื้อน้ำตาเทียมมาใช้เองได้หรือไม่ ปลอดภัยหรือไม่
A : โดยทั่วไป หากเป็นน้ำตาเทียมที่มีขายทั่วไปตามร้านขายยาจะถือว่าเป็นยาที่มีความปลอดภัยสูง ไม่ได้เป็นกลุ่มยาควบคุม ประชาชนทั่วไปสามารถซื้อใช้เองได้.
Q : เรามีวิธีเลือกซื้อน้ำตาเทียมอย่างไร
A : ปัจจุบันน้ำตาเทียมมีวางขายประมาณ 30 ยี่ห้อ การเลือกซื้อนอกจากพิจารณาถึงราคาของยาแล้ว น้ำตาเทียมยังแบ่งออกตามลักษณะการใช้เป็นชนิดขวดที่สามารถเก็บไว้ใช้ได้นานเป็นเดือน ซึ่งมัก มีสารกันเชื้อแบคทีเรีย (preservative) รวมอยู่ด้วยจะสะดวกสำหรับผู้ที่ใช้ยาเป็นประจำมักมีราคาถูกกว่ากลุ่มที่สอง มีลักษณะเป็นหลอดขนาดเล็กๆใช้หยอดในแต่ละวันแล้วทิ้งไปเลย มักให้ความรู้สึกสบายตากว่า เนื่องจากไม่มีสารกันเชื้อแบคทีเรียผสมอยู่จึงต้องใช้ภายใน 24 ชั่วโมง แต่มักมีราคาสูงกว่าน้ำตาเทียมชนิดขวด.
Q : หยอดน้ำตาเทียมไปนานๆจะมีผลเสียหรือไม่
A : การใช้น้ำตาเทียม นอกจากข้อจำกัดด้านราคา (ชนิดขวดราคาประมาณ 100-300 บาท/ขวด/เดือน ชนิดหลอดประมาณ 800-1500 บาท/กล่อง/เดือน) แล้วผลข้างเคียงต่อดวงตาต่ำมักไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อดวงตา ยกเว้นในผู้ใช้ยาบางรายอาจมีอาการแสบตาเมื่อน้ำตาเทียมบางยี่ห้อและการใช้น้ำตาเทียมชนิดขวด มักไม่ใช้เกินวันละ 4 ครั้ง เพราะสารกันเชื้อแบคทีเรียที่ผสมอยู่ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อกระจกตาดำได้.
Q : น้ำตาเทียมจะใช้หยอดในคนปกติได้หรือไม่
A : คนปกติน้ำตาเทียมสามารถเลือกหยอดน้ำตาเทียม เพื่อให้ดวงตาชุ่มชื้น และรู้สึกสบายตาได้.
ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ พ.บ., ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ภาควิชาจักษุวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
วีรพัฒน์ สุวรรณธรรมา พ.บ. ภาควิชาศัลยศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล รามาธิบดี, มหาวิทยาลัยมหิดล
- อ่าน 58,812 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้