"เพราะงานที่ทำด้วยหัวใจที่อ่อนโยนต่อความเป็นมนุษย์นั้น เป็นมากกว่าภารกิจ ตามหน้าที่ แต่เป็นความดีที่หล่อเลี้ยงชีวิต"
ข้อความดังกล่าว เป็นประโยคสุดท้าย ของคำนำในหนังสืองานคือความดีที่หล่อเลี้ยง ที่สะท้อนถึงหลักการทำงานของผู้เขียน ในฐานะแพทย์ที่ทุ่มเทชีวิตให้กับงานในชนบท และในฐานะผู้อำนวยการสำนักวิจัยสังคมและสุขภาพ ที่คอยตั้งคำถามกับมิติความสัมพันธ์ของมนุษย์ บนพื้นฐานความอ่อนโยนต่อความเป็นคน
"ผมจบจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ 33 ระหว่างเรียนถือเป็นเด็กกิจกรรม โดยทำงานในฝ่ายต่างๆ ของสโมสรนิสิตแพทย์ จุฬาฯ จนกระทั่งขึ้นปี 6 ก็ได้รับเลือกเป็นนายกสโมสร ฯ
หลังเรียนจบ ผมเลือกไปฝึกงานที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพราะเป็นที่ร่ำลือว่ารุ่นพี่ที่อีสานมีความเป็นครูที่สามารถฝึกฝนเราให้เป็นแพทย์ที่ดี และประกอบกับพื้นเพของผมเป็นคนอีสาน
ช่วงชีวิตที่โคราชถือเป็นช่วงสำคัญของผม เพราะได้ซึมซับการทำงานเพื่อชนบท จากพี่ๆ ที่เขาทุ่มเทกันอย่างจริงจัง อันทำเป็นแรงบันดาลใจให้ผมเลือกทำงานเพื่อชนบทต่อมาเรื่อยๆ
โดยเฉพาะตอนที่ฝึกงานในฝ่ายเวชกรรมสังคมที่ต้องลงพื้นที่เรียนรู้สาธารณสุขชุมชม ผมเลือกไปฝึกงานที่โรงพยาบาลสูงเนิน กับนายแพทย์สำเริง แหยงกระโทกทำให้ได้เรียนรู้งานการพัฒนาชนบทขององค์กรพัฒนาต่างๆ เยอะมาก ได้สัมผัสบทบาทของหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ทำงานเชิงรุกเข้าไปถึงหมู่บ้าน โดยไปช่วยเหลือชาวบ้านเรื่องสุขาภิบาล ด้านน้ำสะอาด การอนามัยแม่และ เด็ก การขาดแคลนยาในชนบทที่ห่างไกล
สิ่งที่ผมเห็นจากการลงพื้นที่ คือชาวบ้านอยู่ในสภาพขาดแคลน บริการทางการแพทย์ไปไม่ถึง ส่วนใหญ่รักษาตามมีตามเกิด เมื่อเจ็บป่วยก็ซื้อยามากินเอง ในแง่หนึ่งเขาสามารถแก้ปัญหาไปได้ แต่อีกแง่หนึ่งก็อันตราย เพราะยาที่ขายให้ชาวบ้าน มักเป็นยาชุดที่มียาอันตรายโดยเฉพาะยาจำพวกสตีรอยด์ หรือยาปฏิชีวนะ ตอนนั้นพวกเราเข้าไปแก้ปัญหาดังกล่าว โดยการตั้งกองทุนยา เพื่อให้ชาวบ้านมียาที่ปลอดภัย อบรมอาสาสมัครสาธารณสุข และสนับสนุนการแพทย์พื้นบ้านและการใช้สมุนไพร
นอกเหนือจากปัญหาการขาดแคลนบริการสาธารณสุขที่ผมได้พบเห็นแล้ว ผมยังได้พบเห็นการรักษาอาการเจ็บป่วยตามแบบของชาวบ้านเอง ซึ่งบางครั้งก็ได้ผลอย่างน่าประหลาดใจ เช่น ครั้งหนึ่ง มีคนไข้ถูกงูกัด แผลบวมมาก จนต้องกรีดผิวหนังเพื่อให้เลือดไหลไปเลี้ยงอวัยวะส่วนปลายอื่นๆ ได้สะดวก ญาติผู้ป่วยมาขออนุญาตผมให้ทายาสมุนไพรตัวหนึ่ง ผมก็อนุญาตให้ทาได้ โดยให้ระวังอย่าทาตรงแผลสด เพราะจะทำให้ติดเชื้อ ปรากฏว่าหลังทายาสมุนไพรตัวดังกล่าวแผลของผู้ป่วยยุบเร็วมาก ประสบการณ์นี้ทำให้ตระหนักว่า ยาหรือเภสัชสารอาจไม่ได้มีอยู่เฉพาะในห้องยาของโรงพยาบาลก็ได้
การที่ผมอนุญาตให้ชาวบ้านรักษาตามแบบของเขา ส่วนตัวยอมรับได้ถ้าการรักษานั้นไม่ส่งผลเสียต่อการรักษาแบบแผนปัจจุบันที่เราคิดกันว่าดี เพราะเป็นการส่งเสริมให้ชาวบ้านพึ่งตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การเข้าไปขัดขวางความพยายามของมนุษย์ที่จะช่วยเหลือกัน ผมมองว่ามันแปลก เพียงแต่เราต้องช่วยดูแลให้ปลอดภัย
การทำงานในชนบทนั้นต้องยอมรับความจริงข้อหนึ่งว่า ชาวบ้านกับแพทย์นั้นบางครั้งมีความคิดที่แตกต่างกัน ชาวบ้านมีวัฒนธรรม มีวิถีชีวิตของเขา โดยเขาจะคิดแบบที่อาจเรียกว่าเป็นองค์รวมมากกว่าเรา เพราะชีวิตของเขาเชื่อมโยงสัมพันธ์กันหลายมิติ ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความสัมพันธ์ที่รู้จักกัน ต้องพึ่งพาอาศัยกัน เป็นการคิดบนพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ ที่ต่างเกื้อหนุนกัน ซึ่งตรงจุดนี้โรงเรียนแพทย์ไม่มีสอน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเราเรียนจากคนตาย หรือเวลาเราเรียนเรื่องโรคต่างๆ เราก็มักไม่มีโอกาสรู้เลยว่าคนที่ป่วยหรือผู้บริจาคศพเคยมีความฝันอะไรในชีวิต แล้วทำไมถึงบริจาคร่างกายให้เรา ทำให้เราไม่ได้เรียนรู้เรื่องความลึกซึ้งของความเป็นมนุษย์ ความละเอียดอ่อนในเรื่องสังคมและวัฒนธรรมที่เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงให้มนุษย์อยู่ร่วมกัน
ผมทำงานในชนบทได้สักระยะหนึ่ง ก็ย้ายเข้ามาช่วยงานที่กระทรวงสาธารณสุข ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายนโยบายและแผน สังกัดกองแผนงาน จากนั้นได้ทุนจากองค์การอนามัยโลกไปเรียนต่อระดับปริญญาเอกด้านมานุษยวิทยาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา พอเรียนจบก็กลับมาทำงานที่สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ โดยรับผิดชอบในส่วนนโยบายสังคมและวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับสุขภาพ ต่อมาได้เกิดแผนงานวิจัยสังคมและสุขภาพขึ้นโดยการสนับสนุนของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขและพัฒนาต่อมาจนยกระดับเป็นสำนักวิจัยสังคมและสุขภาพอย่างที่เป็นอยู่
งานที่นี่หลากหลายมาก แบ่งออกได้เป็น 5 ด้านด้วยกัน ได้แก่ ด้านประวัติศาสตร์ทางการแพทย์ ด้านปรัชญาวิทยาศาสตร์กับกระบวนทัศน์สุขภาพ ด้านสุขภาพชุมชน ด้านประชาสังคมกับสุขภาพ และด้านระบบสุขภาพพื้นบ้าน"
เมื่อมองย้อนกลับไปในชีวิตการทำงาน นพ.โกมาตร ให้บทสรุปว่า "ผมคิดว่าคนเราจะถือว่าโชคดีในชีวิตการทำงานคือ หนึ่งค้นพบตนเอง คือรู้ว่าชีวิตที่มีอยู่อยากจะได้ทุ่มเทไปทำอะไร สองคือเมื่อรู้ว่าอยากทำแล้วได้ทำตามที่ใจใฝ่ฝัน สามได้ทำตามที่อยากทำแล้วยังประสบความสำเร็จอีกด้วย ถ้าจะโชคดีกว่านั้นอีกคือทำแล้วร่ำรวยด้วย ซึ่งบางคนอาจเอาตรงนี้มาก่อน แต่ผมคิดว่ามันเป็นของแถม หลังจากได้ใช้ชีวิตคุ้มแล้ว ชีวิตของผมก็อยากให้เป็นอย่างนี้และที่ผ่านมาก็คิดว่าเป็นชีวิตที่ดี"
- อ่าน 2,486 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้