Q เด็กที่มีปัญหาน้ำตาคลอตลอดเวลาแต่กำเนิด จะมีวิธีวินิจฉัยโรคและแนวทางให้การรักษาอย่างไร
รัชดาภรณ์ ตันติมาลา
A เด็กที่มีน้ำตาคลอข้างเดียวหรือทั้งสองตาอาจเป็นได้จากท่อน้ำตาอุดตันตั้งแต่เกิด ต้อหินตั้งแต่เกิด กระจกตาดำหรือเยื่อบุตาขาวมีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ หรือมีการระคายเคืองจากสารเคมี. เด็กปกติมักจะเริ่มมีการสร้างน้ำตาเมื่ออายุประมาณ 3 สัปดาห์ไปแล้ว ดังนั้นแม้เด็กจะมีท่อน้ำตาอุดตัน เด็กมักจะเริ่มมีปัญหาน้ำตาไหลเมื่ออายุประมาณ 3 สัปดาห์ไปแล้วเช่นกัน จะขอกล่าวในรายละเอียดของแต่ละโรคที่ เป็นสาเหตุลูกตาแฉะ ดังต่อไปนี้
1. ท่อน้ำตาอุดตันแต่กำเนิด พบได้ประมาณร้อยละ 15 ของเด็กเกิดใหม่ เกิดจากการอุดตันของท่อน้ำตา (ตำแหน่งอุดตัน อยู่บริเวณใกล้ปลายเปิดในจมูก) มักเริ่มมีอาการเมื่ออายุ > 3 สัปดาห์ เนื่องจากเริ่มมีการสร้างน้ำตา เด็กจะมีอาการตาแฉะหรือน้ำตาไหลหรือเป็นขี้ตาตลอดเวลา หรือเป็นๆหายๆ โดยเด็กจะไม่ร้องงอแงเหมือนมีขี้ตาจากภาวะเยื่อบุตาอักเสบ และไม่มีตาขาวเป็นสีแดงเหมือนกรณีมีขี้ตาจากการเป็นโรคตาแดง. การตรวจทำโดยการกดเบาๆ บริเวณหัวตา ข้างจมูก จะมีของเหลวเหนียวอาจเป็นหนองออกมาทางรูน้ำตาบริเวณใกล้หัวตา ภาวะนี้มักหายเองภายในอายุ 6 เดือน - 1 ปี แต่ยังอาจมีอาการในช่วงที่เด็กเป็นหวัด. ดังนั้นในเด็กที่หายจากปัญหาท่อน้ำตาตันแล้ว ยังควรนวดหัวตาต่อ และหลีกเลี่ยงการเป็นหวัด ซึ่งจะทำให้อาการกลับมาเป็นอีก.
ข้อเสนอแนะในการให้การดูแลรักษา
อายุ < 1 ขวบ : แนะนำนวดหัวตาโดยการนวดคลึงบริเวณหัวตา แล้วไล่ลงมาถึงด้านข้างจมูก (creigler maneuver) วันละหลายๆครั้ง (เช่นวันละ 4 รอบ รอบละ 20 ครั้ง) และพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะ เช่น Tobrex eyedrop หยอดตาวันละ 1-4 ครั้ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อน (ช่วงมีขี้ตามากควรหยอดวันละ 4 ครั้ง ส่วนช่วงไม่มีขี้ตาอาจให้หยอดวันละครั้งก่อนนอน) การนวดมีความสำคัญมาก เพราะยาหยอดเป็นเพียงการป้องกันขี้ตา แต่ต้องนวดให้เด็กอย่างสม่ำเสมอ เวลาที่เด็กมักยอมให้นวดคือขณะ กินนมหรือนอนหลับ จะทำให้การนวดมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น.
อายุ > 1 ขวบ : แนะนำพบจักษุแพทย์ อายุมากกว่า 1 ปี อาจนวดหัวตาไม่หาย อาจต้องทำการดมยาสลบเพื่อแยงท่อน้ำตา (probing) ให้ท่อน้ำตาหายอุดตัน.
2. เยื่อบุตาอักเสบ หรือโรคตาแดง อาจเป็นได้บ่อยในเด็กเล็ก เพราะภูมิต้านทานยังอ่อนแอ ถ้าเด็กหรือคนเลี้ยงใช้มือที่ไม่สะอาดถูกตาเด็ก อาจทำให้มีตาแดง มีน้ำตาและขี้ตาสีเขียวเหลืองได้ แต่เด็กมักร้องงอแง เพราะเคืองตา ต่างจากกรณีเป็นขี้ตาจากท่อน้ำตาอุดตัน ซึ่งเยื่อตาขาวมักไม่แดง และเด็กไม่งอแงมากกว่าปกติ การรักษากรณีเป็นโรคตาแดง ควรพาไปพบแพทย์เพื่อรับยาปฏิชีวนะมาหยอดตา.
3. โรคต้อหินแต่กำเนิด จะมีลักษณะที่สำคัญคือตาข้างที่เป็นจะมีน้ำตาไหล ตาไม่สู้แสง และเด็กบีบตา นอกจากนี้ในเด็กบางคนที่เป็นมาก จะมีกระจกตาดำข้างที่เป็นใหญ่กว่าปกติและอาจเป็นฝ้าขาวร่วมด้วย ต้องรีบพาไปพบจักษุแพทย์เพื่อรับการรักษาแต่เนิ่นๆ การรักษาประกอบด้วยการผ่าตัดและการใช้ยาหยอดตาลดความดันตา.
4. กระจกตาดำหรือเยื่อบุตาขาวมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา ทำให้ระคายเคืองตา ถ้าสงสัยมีสิ่งแปลกปลอมในตาเด็ก ต้องพบแพทย์เพื่อให้การรักษาโดยเอาสิ่งแปลกปลอมออก และให้ยาหยอดตาตามแต่ลักษณะของอาการ.
ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ พ.บ.
จักษุแพทย์ คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
การผ่าตัดริดสีดวงทวาร
Q อยากทราบว่าถ้าเป็นริดสีดวงทวาร และจะผ่าตัดด้วยเครื่องมือผ่าตัดริดสีดวงได้หรือไม่ เพราะมีการโฆษณาว่าดี ไม่เจ็บ
ปิยะดา พูลสวัสดิ์
A สำหรับริดสีดวงทวารหนัก ต้องแยกว่าเป็นชนิดภายในหรือภายนอก หรือเป็นร่วมกัน โดยทั่วไปโอกาสต้องรักษาด้วยการผ่าตัดมีค่อนข้างน้อย ซึ่งมีข้อบ่งชี้ในกรณีที่เป็นริดสีดวงภายในระดับที่ 4 หรือระดับที่ 3 บางรายที่รักษาด้วยวิธีไม่ผ่าตัดแล้วไม่ได้ผล และสำหรับริดสีดวงทวารหนักแบบภายนอกที่มีอาการ เลือดออกหรืออักเสบมากและเป็นซ้ำๆ หลายครั้งจนรบกวนชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังมีข้อบ่งชี้ในกรณีที่เป็นริดสีดวงทวารร่วมกับโรคทางทวารหนักอื่นๆ ที่จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดอยู่แล้ว.
สำหรับเครื่องมือผ่าตัดริดสีดวง เป็นเครื่องมือที่เราเรียกว่า Stapler ซึ่งศัลยแพทย์จะใช้เพื่อผ่าตัด ตัดต่อริดสีดวงและแผลจะอยู่ภายในรูทวารหนัก ถ้าทำได้ถูกต้อง จะไม่มีอาการเจ็บมาก และไม่มีบาดแผล ภายนอก อย่างไรก็ดี วิธีนี้นั้นไม่สามารถใช้รักษากรณีที่มีริดสีดวงทวารหนักแบบภายนอกร่วมด้วย หรือรักษากรณีที่เป็นริดสีดวงทวารแบบภายนอกเพียงอย่างเดียว. อย่างไรก็ตาม วิธีนี้มีราคาแพงกว่าวิธีปกติค่อนข้างมาก เพราะเครื่องมือมีราคาประมาณหมื่นบาทเศษ.
ในความเห็นส่วนตัว เห็นว่าวิธีนี้อาจเหมาะสำหรับรายที่เป็นริดสีดวงทวารหนักแบบภายใน โดยเฉพาะรายที่เป็นแบบรอบวง (circumferential) เท่านั้น.
วีรพัฒน์ สุวรรณธรรมา พ.บ.
ศัลยแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล
- อ่าน 30,792 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้