• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ยาหมดอายุ

ถาม : ปิ่น/กาญจนบุรี
ดิฉันขอถามเรื่องยาดังต่อไปนี้
1. รูปแบบของยารักษาโรคมีอะไรบ้าง
2. สังเกตอย่างไรว่ายาหมดอายุหรือไม่ อย่างไร

ตอบ : ภกญ.วิภาจรี นวสิริ
1. รูปแบบของยา
ยาแผนปัจจุบันมีการผลิตหลายรูปแบบเพื่อประโยชน์ของการใช้ได้สะดวกและเหมาะสมกับกลุ่มของผู้ป่วย เช่น เด็กอ่อนและ/หรือเด็กเล็กจะมีเฉพาะยาน้ำเท่านั้น เพราะถ้าให้เด็กกินยาเม็ดอาจเกิดอันตรายถ้าเด็กสำลักยาและเม็ดยาติดหลอดลม

สำหรับผู้ใหญ่ มีทั้งยาเม็ดและยาน้ำ เพื่อเป็นทางเลือกเพราะยาน้ำสำหรับผู้ใหญ่บางกรณีฉีดเข้าไปในถุงน้ำเกลือพร้อมกับการให้น้ำเกลือ

นอกจากนี้ ยังมีรูปแบบของยาชนิดอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ยาฉีด ยาขี้ผึ้ง ยาผง ยาหยอดตา ยาหยอดหู ยาพ่นปาก ยาพ่นจมูก ยาอมใต้ลิ้น เป็นต้น

2. ยาหมดอายุ
ก่อนอื่นจะต้องดูที่ฉลากยา เพราะจะเขียนวันผลิตและวันหมดอายุของยาไว้ ซึ่งมีหลายแบบ เช่น Exp. Date, Expiring, Use by หรือ Use before แล้วตามด้วย เลข วัน เดือน ปี ที่ยาจะหมดอายุ
ตัวอย่าง Exp. Date 11/12/09 หมายถึง ยาหมดอายุ ในวันที่ 11 เดือนธันวาคม ค.ศ.2009 (พ.ศ. 2552)

ฉลากยาที่ระบุเฉพาะวันผลิตยาว่า "Mfd. Date หรือ Mfg." แล้วตามด้วยเลขวัน เดือน ปี เช่น Mfg. date 11/12/2008 หมายความว่ายาผลิตวันที่ 11 เดือนธันวาคม ค.ศ.2008 (พ.ศ.2551)
โดยทั่วไปยาจะหมดอายุนับจากวันผลิต 3 ปี (ยาน้ำและยาภายนอก) และ 5 ปี (ยาเม็ด)

การสังเกตยาหมดอายุ
นอกจากดูที่ฉลากยาแล้ว ลักษณะของยาเสื่อมสภาพหรือหมดอายุ ดูได้จากสิ่งที่ปรากฏดังนี้
ยาเม็ด มีลักษณะแตกร่อน กะเทาะ เปลี่ยนสี หรือสีซีด
ยาแคปซูล มีลักษณะบวม โป่งพอง หรือผงยาภายในจับกันเป็นก้อน
ยาน้ำเชื่อม มีลักษณะขุ่น มีตะกอน เปลี่ยนสี มีกลิ่นบูดหรือเหม็นเปรี้ยว
ยาน้ำแขวนตะกอน มีลักษณะตะกอนจับตัวเป็นก้อนแข็ง เขย่าแรงๆ ก็ไม่กระจาย
ยาน้ำอีมัลชั่น มีลักษณะเขย่าแล้วไม่รวมตัวเป็นเนื้อเดียวกัน