⇒ ถาม
เป็นมา 3 ปีกว่าแล้ว รักษามาหลายแห่งก็ไม่หาย สาเหตุเกิดจากอะไร มีตัวยาไหนที่รักษาให้หายขาดไปเลย และยาที่กินอยู่จะมีผลถึงลูกหรือไม่
เมื่อปลายปี 2528 ดิฉันได้ป่วยเป็นโรครูมาตอยด์ และได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หมอก็ให้ยาแอสไพรินมากินครั้งละ 7-8 เม็ด 3 เวลา แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นเลย กลับเป็นหนักมากข้น คือ ปวดไปตามข้อต่าง ๆ ทั่วร่างกาย ข้อเข่าบวมอักเสบ จนลุกนั่ง นอน ไม่ได้ จนดิฉันต้องเปลี่ยนหมออีก
ต่อมาในต้นปี 2529 ดิฉันได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลอีก หมอให้ยา Brufen 200 ม.ก. และ Voltaren กินครั้งละ 1 เม็ด 3 เวลา และนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 20 วัน อาการก็เหมือนเดิม จะทุเลาบ้างก็เป็นเวลาตอนบ่าย ๆ ตอนเช้าข้อจะติดฝืดไปไหนไม่ได้เลย พอสาย ๆ อาการก็ค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ ใกล้สว่างจะปวดมาก จนต้องให้คนช่วยบีบนวดให้
คุณพ่อ คุณแม่ท่านสงสารดิฉันมาก จึงให้ย้ายออกมารักษาตามแผนโบราณ ทั้งหมอเจ้าเข้าทรง หมอผี สารพัดหมอจะสรรหามาได้ นอนพักรักษาอยู่ที่บ้านอีกประมาณ 10 วัน อาการหนักเข้าไปอีก ต้อนป้อนข้าว ป้อนน้ำ คือช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย อุ้มลุกอุ้มนั่ง สุขแสนจะทรมาน น้ำหนักตัวลดลงอย่างน่าใจหาย และได้มีคนแนะนำให้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ และในเดือนกุมภาพันธ์ 2529 คุณพ่อก็ได้พาดิฉันไปโรงพยาบาลอำเภออีก พอไปถึงหมอก็ให้น้ำเกลือ ฉีดยาจำพวกสตีรอยด์และกินยาเพร็ดนิโซโลน พอได้ 15 ที อาการหายเหมือนปลิดทิ้ง ลุกนั่ง เดินได้ ดิฉันรักษาอีกเกือบ 1 เดือนพอออกจากโรงพยาบาลหน้าก็เริ่มบวมฉุ กลมเหมือนพระจันทร์ คุณพ่อของดิฉันดีใจมาก หาว่าหมอเทวดามาช่วยแล้ว ดิฉันไปทางไหน มีแต่คนทักว่าหน้าบวม จนดิฉันต้องเปลี่ยนหมออีก และได้ไปเริ่มต้นตรวจที่คลินิกหมอโรคกระดูก ข้อ หมอท่านนี้พอเห็นหน้าของดิฉันท่านตกใจมาก และก็แนะนำให้ลดยาจำพวกนี้ และสั่งฉีดยาไมโอไครซิน ครั้งละ 20 ม.ก.ให้ จนกระทั่งบัดนี้ดิฉันได้ลดยาลงเหลือวันละ 1- เม็ด และฉีดยาไมโอโครซินได้ 1850 ม.ก. แล้ว แต่อาการก็แค่ทุเลา
ดิฉันพยายามทุกอย่างที่จะลดยาเพร็ดนิโซโลนลง แต่ปรากฏว่า ลดได้แค่ 3-5 เดือนเท่านั้นก็ต้องกลับมากินใหม่ ตามคำแนะนำของคุณหมอท่านนี้ ท่านนบอกให้ใจเย็น ๆ แต่ดิฉันเย็นไม่ได้เสียแล้ว ประจวบกับตอนนี้เข่าอักเสบทั้งสองข้าง คุณหมอเอาน้ำออกเกือบ 20 ครั้งแล้ว เพิ่มยาเข้าไปในเข่าด้วย ซึ่งยาตัวนี้ ดิฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นยาจำพวกใด พอฉีดเข้าไปแล้วอาการบวมก็จะยุบภายใน 2-3 วัน พอได้สัก 2 อาทิตย์ อาการก็จะเริ่มเป็นใหม่อีก สลับหมุนเวียนกันไปจนกระทั่งทุกวันนี้ คุณหมอบอกว่าต้องผ่าตัดดูว่าสาเหตุเพราะอะไร แต่ตอนนี้ต้องรอเครื่องมือจากเยอรมัน ดิฉันรอมานาน 8-9 เดือนแล้ว รอจนต้องเขียนจดหมายมาปรึกษาว่าดิฉันควรจะรอไปก่อน หรือว่าตัดสินใจทำที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯดี ดิฉันกลัวเข่าของดิฉันจะเสียจนใช้งานไม่ได้ เพราะอาชีพของดิฉันต้องใช้เข่ามาก ดิฉันเสียใจมากที่ได้รับการรักษาแบบผิด ๆ มาตั้งแต่ต้น จนเกือบทำลายตัวเองเสียแล้ว ดิฉันกินยาจำพวกเพร็ดโซโลนมา 2 ปีกว่า ๆ แล้ว จะทำให้กระดูกผุหรือไม่ และได้ไปตรวจเลือดทุก ๆ 2 เดือน ปรากฏว่าปกติดีทุกอย่าง ป่วยมาประมาณ 3 ปีกว่า
ดิฉันขอเรียนนามปัญหาดังนี้
1. มีโรงพยาบาลไหมบ้างที่มีเครื่องมือในการผ่าตัดเข่าพร้อมทุกอย่าง สามรถทำได้ทุกเวลา
2. สาเหตุของการเป็นรูมาตอยด์มาจากอะไร
3. มีตัวยาไหนบ้างที่จะรักษาให้หายขาดไปเลย และตัวยาที่ใช้แทนเพร็ดนิโซโลนได้ดี
4. ขณะกินยารักษาโรครูมาตอยด์อยู่จะมีลูกได้หรือไม่ ผลดี ผลเสียต่อลูก และแม่เป็นอย่างไรบ้าง
5. อาการบวมอักเสบที่เข่า ถ้าผ่าตัดแล้วจะมีโอกาสกลับมาเป็นใหม่อีกหรือไม่
6. ข้อนิ้วมือจะผ่าตัดต่อ ต้องใช้เวลารักษานานเท่าใด และนิ้วจะใช้งานตามปกติเหมือนเดิมหรือไม่ เป็นเฉพาะนิ้วก้อย ปวดบ้างบางเวลา
7. โรคนี้จะใช้วิธีนวดแผนโบราณเข้าช่วยมีผลดี ผลเสียอย่างไร
8. คนเป็นโรครูมาตอยด์จะมีชีวิต (อายุ) ได้กี่ปี และจะมีโอกาสหายขาดหรือเปล่า และจะต้องกินยาควบคุมไปตลอดชีวิตหรือไม่
9. โอกาสเป็นมะเร็งมีมากน้อยเพียงไร
10. ทำไมน้ำหนักตัวลดลงทั้ง ๆ ที่นอนหลับ กินอาหารได้ แต่ไม่ได้ออกกำลังกาย จะมียาตัวไหนช่วยได้บ้าง (ไม่มีโรคอื่นแทรก) ก่อนป่วย น้ำหนัก 42 กก. ป่วยได้ 3 ปี ลดลงเหลือ 35 กก. สูง 150 ซ.ม. นับว่าผอมมากนะคะ ขอคำแนะนำด้วย
11. อยากมารักษาที่ถูกต้อง รวดเร็วก่อนจะพิการ
กะรัต/พะเยา
⇒ ตอบ
สำหรับคนไทย ข้ออักเสบรูมาตอยด์เป็นโรคที่รักษาไห้ดีได้กว่าร้อยละ 70 ของผู้ป่วยจะสามารถช่วยตนเอง หรือดีพอที่จะประกอบอาชีพตามปกติโดยไม่มีข้อพิการ สิ่งที่คุณได้ประสบและถามมานี้ ส่วนใหญ่กับที่หมอได้เขียนไว้แล้วใน “หมอชาวบ้าน” ฉบับที่ 65 ประจำเดือนกันยายน 2527 ขอให้อ่านรายละเอียดเองนะคะ (เนื้อเรื่องยาว 6 หน้ากระดาษ) จะขอตอบเฉพาะบางประเด็นดังนี้
1. โรคนี้อาศัยการผ่าตัดรักษาไม่หายแน่นอน ดังนั้นอย่าไปสนไปว่ามีโรงพยาบาลใดที่มีเครื่องมือผ่าตัดเลย
4. ยารักษาโรครูมาตอยด์บางชนิดห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หากคุณตั้งใจจะมีลูก ต้องบอกแพทย์ผู้รักษาล่วงหน้าด้วย จะได้เลือกใช้ยาได้ถูก
5. การผ่าตัดเป็นวิธีรักษาชั่วคราวเท่านั้น หลังผ่าตัดข้อย่อมอักเสบขึ้นมาใหม่ได้อีก
6. แพทย์ผู้ที่จะทำการผ่าตัดนิ้วมือของคุณย่อมตอบคุณได้ดีกว่า ว่าใช้เวลารักษานานเท่าใด แต่ถึงอย่างไรก็คงใช้งานไม่ได้เหมือนปกติ 100%
7. ถ้านวดไม่รุนแรงมีผลดี คือ ลดอาการปวดและข้อฝืดบ้าง แต่ถ้านวดผิดวิธี ข้อจะพิการรักษายากกว่าเก่า ผลเสียคือทำให้เสียเวลาและเงินทองโดยไม่ช่วยให้โรคนี้ดีขึ้นได้เลย
9. คนที่เป็นโรคนี้มีโอกาสเป็นมะเร็งมากพอ ๆ กับคนทั่ว ๆไป ยกเว้นหากผู้ป่วยได้รับอาหารชนิดที่ร้ายีแรงเกินไป ก็จะเสี่ยงกับการเกิดมะเร็งมากขึ้น
11. การรักษาโรครูมาตอยด์ ต้องการแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งสำหรับทางภาคเหนือ ขอแนะนำให้ไปคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลนครเชียงใหม่ ภาควิชาอายุรศาสตร์ น.พ. วรวิทย์ เลาหเรณู ซึ่งได้รับการฝึกอบรมทางนี้โดยเฉพาะ ถ้าจะไปกรุงเทพฯ โรงเรียนแพทย์ทั้ง 4 แห่ง เช่น ศิริราช จุฬาลงกรณ์ฯ รามาธิบดี หรือพระมงกุฎ ก็มีสาขาวิชาโรคข้อ และรูมาติสซั่มที่จะช่วยคุณได้
พ.ญ. เล็ก ปริวิสุทธิ์
- อ่าน 8,341 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้