ปวดแสบปวดร้อน เมื่อไม่นานมานี้มีอาการกระตุก สงสัยว่าจะเป็นข้างในมดลูก เริมเป็นข้างในมดลูกได้หรือ
ถาม
ดิฉันอายุ 43 ปี แต่งงานมา 20 ปี มีบุตร 3 คน ผ่าออกทุกคน และทำหมันแล้ว
สามีดิฉันเป็นคนดี ไม่ยุ่งกับใคร ไม่เคยเป็นโรคอย่างที่ดิฉันเป็นอยู่ ดิฉันก็ตอบไม่ได้ว่า ได้รับเชื้อโรคนี้มาจากไหน บอกหมอๆก็ไม่เชื่อ เชื้อที่ว่านี้คือ หนองใน เริม งงจริงๆ
1. โรคหนองใน ไม่ต้องเพาะเชื้อก็บอกได้เลยหรือคะ ไม่คัน ไม่แสบ ไม่ขัดปัสสาวะ มีหนองไหล บางทีก็เป็นสีเหลืองๆ หรือว่าตกขาว ควรจะกินยาอะไรคะ
2. ดิฉันเป็นเริมบริเวณอวัยวะเพศบ่อยๆ มีอาการปวดแสบปวดร้อน แต่ว่าเดือนนี้ดิฉันเจ็บปวดที่ช่องคลอดตึงๆ มีอาการกระตุกด้วย ดิฉันหาไม่เจอ สงสัยว่าจะเป็นข้างในมดลูก เริมเป็นข้างในมดลูกได้หรือคะ พอดีประจำเดือนมาพอดี ดิฉันได้รับความเจ็บปวดทรมานมาก ดิฉันอยากจะตัดมดลูกทิ้ง กลัวว่าถ้าเป็นบ่อยๆเข้าจะเป็นมะเร็ง เพราะโรคเริมนี้ไม่มียารักษา ขอให้คุณหมอกรุณาแนะนำด้วย ดิฉันกลัวค่ะ
3. บางทียังไม่ถึงเวลามีประจำเดือน ดิฉันก็ปวดท้องน้อยบ่อยๆ และมีตกขาวสีเหลืองบ้าง ขาวบ้างออกมาบ่อยๆ ปีนี้รู้สึกว่าประจำเดือนจะเร็วกว่ากำหนด เป็นอาการของคนใกล้หมดประจำเดือนหรือเปล่าคะ
4. เมื่อ 3 เดือนก่อน ดิฉันไปผ่าซีสที่แคมใน หมอบอกว่า กำลังจะโตขึ้นอีกข้างหนึ่งแล้วต้องผ่าอีก ซีสเกิดจากอะไรคะ
สุธี/กรุงเทพฯ
ตอบ
1. โรคหนองในนั้นจะสามารถวินิจฉัยได้ด้วยการย้อมเชื้อหรือเพาะเชื้อดู อาการที่คุณเป็นอยู่นั้นไม่สามารถบอกได้แน่นอนว่าเป็นหนองในหรือไม่ อาจจะเกิดการอักเสบจากเชื้ออย่างอื่นได้หลายอย่าง ควรจะไปรับการตรวจภายในจากสูตินรีแพทย์
2. เริมบริเวณอวัยวะเพศมักจะเป็นบ่อยๆไม่หายขาด นอกจากจะเป็นแผลบริเวณปากช่องคลอดและแคม ซึ่งทำให้มีอาการปวดแสบปวดร้อนมาก และอาจจะเป็นแผลบริเวณปากมดลูกก็ได้ แต่แผลข้างในจะไม่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดเหมือนข้างนอก ถ้าคุณมีอาการปวดมาก ก็ควรจะไปตรวจดูว่าเกิดจากอะไร และแพทย์ก็อาจจะตรวจมะเร็งให้ด้วยเลย
3. อาการปวดท้องน้อยบ่อยๆ พร้อมกับมีตกขาวอาจจะเกิดจากการอักเสบบริเวณปีกมดลูกก็ได้ ถ้าจะให้รู้แน่ก็ต้องได้รับการตรวจภายใน อย่างไปซื้อยามากินเอง ในระยะใกล้หมดประจำเดือนนั้นคุณอาจจะมีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เร็วบ้าง ช้าบ้าง ส่วนใหญ่แล้วจะมาช้าครับ
4. ซีสที่แคมใน เกืดจากการอุดตันของต่อมบาโทลิน ซึ่งอยู่บริเวณปากช่องคลอดทางด้านล่าง มีต่อมอยู่ทั้งสองข้าง ต่อมนี้มีหน้าที่สร้างเมือกเพื่อช่วยหล่อลื่นในขณะร่วมเพศ ถ้าเกิดการอักเสบจากเชื้อหนองในหรือจากเชื้อตัวอื่นๆ ได้หลายชนิด จะทำให้ท่อที่ส่งเมือกอุดตัน นานๆเข้าเมือกที่ถูกขับออกมาก็ออกไม่ได้เป็นก้อนที่เรียกว่า บาโทลินซีส (Bartholin cyst) เมื่อผ่าออกแล้วอาจจะเป็นใหม่ได้อีกทั้งด้านเดียวกัน และด้านตรงข้าม เพราะมีต่อมเล็กๆอยู่มาก ซึ่งจะมีโอกาสเกิดการอักเสบและถูกอุดตันได้
นพ.สุวชัย อินทรประเสริฐ
- อ่าน 18,417 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้