หัวใจเต้นผิดจังหวะ

หัวใจเต้นผิดจังหวะ

ไปหาหมอตรวจคลื่นหัวใจด้วยเครื่อง EKG หมอบอกว่าหัวใจเต้นผิดจังหวะเล็กน้อย ผมควรปฏิบัติตัวอย่างไร

ผู้ถาม เอกสิทธิ์/ฉะเชิงเทรา
ผู้ตอบ นพ.วิเชียร ทองแตง

ถาม
เมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์นี้ ผมป่วยเกี่ยวกับระบบของหัวใจ ไปหาหมอที่คลินิกแห่งหนึ่งตรวจคลื่นหัวใจด้วยเครื่อง หมอบอกว่า หัวใจเต้นผิดจังหวะเล็กน้อย และตรวจว่าเป็นที่ศูนย์ควบคุมการเต้นของหัวใจ

หมอจีนบอกว่าประสาทหัวใจอ่อนแอ เบื่ออาหาร ทำงานไม่ค่อยไหว แขนข้างซ้ายจะทำอะไรไม่ค่อยสะดวกนัก มักมีอาการหัวใจเต้นเร็ว เลือดฉีดแรง บางครั้งคล้ายจะเป็นลมหมดสติ แต่ไม่มีอาการใจสั่น เหนื่อยเป็นครั้งคราว ขอความกรุณาแนะนำด้วยว่าผมควรปฏิบัติตัวอย่างไร ผมอายุ 36 ปี สูง 152 เซนติเมตร น้ำหนักก่อนป่วย 42 กิโลกรัม ตอนนี้ 40.5 กิโลกรัม

ตอบ
จากข้อมูลที่เขียนถามมา มีความเป็นไปได้เรียงลำดับ ดังนี้

1. ไม่เป็นโรคหัวใจ แต่มีความผิดปกติเล็กน้อยในจังหวะการเต้นของหัวใจ ซึ่งพบได้บ่อยในคนหัวใจปกติ สาเหตุเพราะหัวใจถูกกระตุ้นด้วยยา เช่น ยาขยายหลอดลม สารคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟ น้ำชา หรือการสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า หรือหัวใจถูกกระตุ้นเพราะความแปรปรวนในระบบประสาทอัตโนมัติ เช่น มีภาวะความเครียด กังวล กลัว คิดมากในปัญหาต่างๆ รวมทั้งกลัวจะเป็นโรคหัวใจ สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะกระตุ้นระบบประสาทซึ่งจะกระตุ้นหัวใจอีกต่อหนึ่ง ทำให้ใจเต้น ใจสั่น เต้นผิดจังหวะ เหนื่อย หายใจไม่เต็มอิ่ม หายใจแรง เร็ว และอาจเจ็บหน้าอกแปล๊บๆ เวียนศีรษะ หน้ามืดเป็นลม อาการต่างๆ เหล่านี้มักเกิดขึ้นขณะอยู่เฉยๆ ไม่ได้ออกแรง ขณะคิดมาก เครียด โมโห แต่ถ้าทำงานเพลินๆ หรือออกแรงเล่นกีฬามักจะไม่เป็น

ข้อแนะนำ

1. หลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือสารกระตุ้นหัวใจ เช่น น้ำชา กาแฟ เหล้า บุหรี่

2. ทำใจให้มั่นคง ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งเร้าต่างๆ ที่ทำให้เกิดความเครียดกังวลมากนัก

3. เล่นกีฬาหรือออกกำลังเสมอๆ ให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรง และเป็นการลดความเครียดไปด้วย

4. การรักษาด้วยยามักไม่จำเป็น

2. อาจเป็นโรคต่อมคอพอกเป็นพิษ ทำให้หลั่งฮอร์โมนมากผิดปกติ กระตุ้นร่างกายทั่วไป เกิดอาการใจเต้น ใจสั่น เหนื่อยง่าย มือสั่น กินจุ ผอมลง ตาโปน คอหอยพอกโต หงุดหงิด ขี้โมโห โรคนี้วินิจฉัยได้ง่ายๆ จากประวัติอาการและการตรวจร่างกายธรรมดา กรณีของคุณไม่ค่อยเหมือนนัก และผ่านการตรวจกับแพทย์มาแล้ว คาดว่าไม่น่าจะเป็น แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นโรคนี้ก็ไม่มีอันตรายร้ายแรง รักษาได้

3. อาจเป็นโรคลิ้นหัวใจพิการ (ตีบ รั่ว) หรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจหนา ทำให้มีอาการต่างๆ ดังกล่าวแล้วได้ โดยเฉพาะเวลาออกแรงจะเหนื่อย ใจเต้น ใจสั่นมากขึ้น จนถึงขั้นเวียนหัว หมดสติได้ การวินิจฉัยก็ไม่ยากเช่นกัน การตรวจร่างกายธรรมดา แพทย์ก็มักจะบอกได้แล้ว ถ้าถ่ายภาพรังสีทรวงอกจะพบเงาผิดปกติของหัวใจและหลอดเลือดในปอด ถ้าตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจก็จะพบความผิดปกติต่างๆ (นอกเหนือจากหัวใจเต้นผิดจังหวะ) กรณีของคุณจึงดูไม่เหมือนโรคหัวใจเหล่านี้

สรุป : ถ้าผ่านการตรวจร่างกายโดยแพทย์แล้ว ไม่พบโรคในข้อ 2 3 และตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจพบแค่เพียงเต้นผิดจังหวะ อาการไม่สบายของคุณน่าจะอยู่ในข้อ 1 สบายใจได้ครับผม