แสงชัย/กรุงเทพฯ : ผู้ถาม
ผมมีปัญหาขอเรียนถามคุณหมอดังนี้ครับ คือผมจะมีอาการคันบริเวณก้นและง่ามก้นมากครับ เคยซื้อยาฆ่าเชื้อรายี่ห้อซีม่ามาทาจนหมดหลอดก็ยังไม่หาย ไม่ทราบว่า ผมเป็นโรคอะไร และมีวิธีดูแลรักษาความสะอาดร่างกายอย่างไร
นพ.ประวิตร พิศาลบุตร : ผู้ตอบ
อาการคันก้นพบได้บ่อย และ ทำร้ายทั้งสุขภาพกายใจ และบุคลิกภาพ อาการมักกำเริบเวลาอากาศร้อนชื้น หลายคนคันจนนอนไม่หลับ จุดนี้เกิดอาการคันได้บ่อย เพราะผิวหนังมักเปียกชื้นอยู่เสมอ และรอบทวารหนักผิวหนังจะเป็นจีบย่น ทำให้การรักษาความสะอาดเป็นไปได้ยาก
สาเหตุของอาการคันรอบทวารหนักนั้น ที่พบบ่อยที่สุดก็คือ การทำความสะอาดบริเวณนี้ไม่ดีพอ ต้องทำความสะอาดโดยการชำระล้างทุกครั้งที่ขับถ่าย หากจะใช้สบู่ฟอก แนะนำให้ใช้สบู่ฟอกกับมือให้เป็นฟองแล้วจึงฟอกบริเวณนี้ เพราะหากใช้สบู่ทั้งก้อนถูจะระคายเคืองและมีเศษสบู่ตกค้างอยู่ได้ การใช้กระดาษชำระอย่างเดียวไม่เพียงพอ นอกจากนั้นกระดาษชำระชนิดเปียกที่เรียกกันว่า wipes จะมีส่วนผสมของยากันเสีย ที่ทำให้ผิวแพ้และระคายเคืองได้
อาการคันก้นยังอาจเกิดจาก การเป็นริดสีดวงทวารหนัก บางคนเป็นพยาธิเส้นด้าย จะมีอาการคันมากตอนกลางคืน เพราะพยาธิตัวเมียจะคลานออกจากลำไส้มาวางไข่ที่ผิวหนังรอบทวารหนัก บางคนเกาก้นลูกเสร็จแล้วหยิบองุ่นเข้าปากตนเอง พยาธิเลยยักย้ายถ่ายเทไม่จบสิ้น
นอกจากนั้นการติดเชื้อรา เชื้อยีสต์ แม้กระทั่งเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดหูดหงอนไก่ หรือเริม ก็ทำ ให้เกิดอาการคันนี้ได้
โรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคสะเก็ดเงินที่มีปื้นแดงมีขุยขาวหนา หรือโรคเซ็บเดิม ซึ่งเป็นรังแคของผิวหนัง มักเป็นตามร่องก้นและรอบทวารหนัก ก็ทำให้เกิดอาการคันบริเวณก้นได้บ่อย
บางคนพอเริ่มมีอาการคัน ก็หาซื้อยามาทาแก้คัน ส่วนใหญ่จะ มียาชาเฉพาะที่ผสม ซึ่งแก้คันเพียงชั่วคราว แต่หลังจากนั้นผิวจะแพ้ จึงยิ่งคันมากขึ้น การใช้ยาแก้คันทาบริเวณนี้จึงไม่ควรใช้ต่อเนื่องกันนานเกิน ๑ สัปดาห์
พบว่าการนอนแช่น้ำสบู่ในอ่างหรือใช้สบู่ที่ใส่น้ำหอมมากๆ อาจทำให้ผิวระคายเคืองและคันมากขึ้น ผู้ที่กินยารักษาโรคสิว เตตราไซคลีน ยาจะทำลายแบคทีเรียเจ้าถิ่นที่คอยคุ้มครองผิวหนัง อยู่ทำให้เชื้อยีสต์และเชื้อแบคทีเรียแปลกปลอมโตเร็วขึ้น จึงเกิดอาการคันก้นได้บ่อย นักบริหารระดับสูงหลายคนเวลาเข้าประชุมจะคันศีรษะ เชื่อว่าความกังวลมีส่วน แต่บางคนแทนที่จะคันศีรษะ กลับคันก้นแทน
ควรรักษาความสะอาดบริเวณ นี้ทุกครั้งที่ขับถ่าย สวมกางเกงใน ทำด้วยผ้าฝ้าย เพื่อให้ลมพัดผ่าน สะดวกก็จะทำให้บริเวณนี้แห้ง
เลือกทำความสะอาดกางเกงในด้วยผงซักฟอกที่ใช้สำหรับ"ผิวหนังที่ระคายเคืองง่าย " (for sensitive skin) ไม่ควรใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มที่หอมกับกางเกงใน เพราะสารเคมีตกค้างอาจทำให้ผิวส่วนนี้ระคายเคือง ไม่ควรเกาอย่างเด็ดขาด เพราะนอกจากเป็นภาพที่ไม่น่าดูแล้ว ยิ่งเกาก็จะยิ่งคัน
ถ้าดูแลตัวเองแล้ว ก้นยังไม่หายคัน ก็ควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อตรวจดูว่าเป็นโรคอะไร และต้องรักษาแบบใดจึงจะถูกต้องต่อไปครับ
- อ่าน 280,251 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้