• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ยากลุ่มกรดวิตามินเอ

ยากลุ่มกรดวิตามินเอ
ถาม : วรรณา/กรุงเทพฯ
ดิฉันมีสิวอักเสบมาก คุณหมอบอกว่าเป็นโรค สิวหัวช้าง แนะนำให้กินยาลดสิวกลุ่มกรดวิตามินเอ ซึ่งคุณหมอบอกว่ายาตัวนี้ถ้าตั้งครรภ์จะทำให้เด็กพิการ ดิฉันกินยาวันละ ๑๐ มิลลิกรัม ต่อเนื่องกันมานาน ๘ เดือนแล้ว  เมื่อเดือนที่แล้วที่บริษัทมีการ ตรวจร่างกายประจำปี แพทย์ของบริษัทบอกว่าดิฉันมีค่าเอนไซม์ตับสูงผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการ กินยารักษาสิวก็ได้ อยากเรียนถามว่ารายละเอียด  เรื่องนี้เป็นอย่างไรคะ                             

ตอบ : นพ.ประวิตร พิศาลบุตร
คาดว่ายาที่กินเพื่อรักษาสิว คือยากลุ่มกรดวิตามินเอ ซึ่งมีชื่อเคมีคือ isotretinoin มีชื่อทางการค้าที่ขายในประเทศไทย เช่น Roaccutane, Acnotin, Sotret และ Isotane  เป็นยาที่ใช้รักษาโรคสิวหัวช้าง สิวที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ สิวอักเสบเรื้อรังที่ทำให้จมูกผิดรูปร่าง สิวที่ทำให้เกิดแผลเป็นมากๆ และสิวในผู้ป่วยที่มีอาการวิตกกังวลเกินเหตุ 

ยารักษาสิวตัวนี้ทำให้เด็กในครรภ์พิการ ผู้ที่ได้ รับยาจึงต้องคุมกำเนิดก่อนกินยานาน ๑ เดือน และคุมกำเนิดระหว่างกินยา ต้องหยุดยาล่วงหน้า ๑ เดือนถึงจะตั้งครรภ์ได้ ต้องไม่บริจาคเลือดระหว่างกินยาตัวนี้

ยาตัวนี้ต้องกินต่อเนื่องกันนาน คือต้องรับยาจนได้ขนาดยาสะสมที่ ๑๒๐ มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว ๑ กิโลกรัม เช่น ถ้าหนัก ๕๐ กิโลกรัม ก็ต้องกินยาจนได้ยาสะสมเท่ากับ ๑๒๐ X ๕๐ คือ ๖,๐๐๐ มิลลิกรัมนั่นเอง
ถ้ากินวันละ ๑๐ มิลลิกรัม ก็ต้องกินต่อเนื่องกันนาน ๖๐๐ วัน
ยาตัวนี้ทำให้ริมฝีปากแห้ง ตาแห้ง ผิวแห้ง บางคนอาจมีเลือด กำเดาไหล ในบางรายอาจทำให้ตับอักเสบได้จริง และอาจทำให้มีไขมันในเลือดสูง
นอกจากนั้น พบว่ายารักษา โรคผิวหนังหลายตัวมีผลเสียต่อตับ จึงต้องควรระมัดระวังไม่ใช้ยาเหล่านี้โดยไม่จำเป็น หรือต้องคอย ตรวจการเปลี่ยนแปลงทางห้องปฏิบัติการของตับอยู่เสมอ เช่น
๑. ยา methotrexate ที่ใช้รักษาโรคสะเก็ดเงิน อาจทำให้ตับแข็งได้
๒. ยากลุ่มกรดวิตามินเอที่ใช้รักษาโรคสิวและโรคสะเก็ดเงิน อาจมีพิษต่อตับและทำให้มีค่าเอนไซม์ตับสูงขึ้นได้
๓. ยา minocycline ที่ใช้รักษา โรคสิวอาจทำให้ตับอักเสบได้
๔. ยา griseofulvin, ketoco-nazole, terbinafine ที่รักษาการติดเชื้อราและยีสต์ของผิวหนัง อาจมีพิษต่อตับได้เช่นกัน  i