ยารักษาผมร่วงแบบผู้ชาย
ถาม : ชัย/นครราชสีมา
ขณะนี้อายุ ๓๐ ปีเศษ เริ่มมีผมบาง เคยปรึกษา สถาบันที่ดูแลด้านผมร่วง แต่เสียค่าใช้จ่ายสูงมาก มีคนรู้จักแนะนำให้ใช้โลชั่นชื่อ minoxidil ใช้มาได้ ๓ เดือนแล้ว เคยถามเภสัชกรว่าต้องใช้นานเท่าไรจึงจะเห็นผล คำตอบที่ได้คือต้องใช้ตลอดไป ขอคำแนะนำด้วย
ตอบ : นพ.ประวิตร พิศาลบุตร
ปัญหาผมบางของคุณ เข้าใจว่าเป็นผมบางชนิดแบบพันธุกรรมหรือแบบผู้ชายนั่นเอง (androgenetic หรือ male pattern alopecia) จัดว่าเป็นปัญหาที่ พบบ่อยมาก โดยเฉพาะในชาวตะวันตก พบผู้ชายเกือบร้อยละ ๕๐ จะมีอาการแสดงผมบางแบบนี้ เมื่อมีอายุถึง ๔๐-๕๐ ปี สาเหตุเชื่อว่าเนื่องมาจากฮอร์โมนเพศชาย (androgen) พันธุกรรมและอายุ
สังเกตกันว่าขันทีจีนที่ถูกตอนโดยตัดอัณฑะทิ้ง จะไม่มีผมร่วงแบบนี้ (ไม่มีฮอร์โมนเพศชาย) เนื่องจากผมบางแบบนี้เป็นภาวะธรรมชาติอย่างหนึ่ง ไม่มีอันตรายแต่อาจแลดูไม่สวยงาม การแก้ไขมีหลายวิธี เช่น การใช้วิกผมปลอม การถักทอเส้นผม การผ่าตัดปลูกผม การใช้ยาทา minoxidil และการ ใช้ยากิน finasteride
สำหรับการใช้ minoxidil ทานั้น ให้ใช้เป็นโลชั่นความเข้มข้นร้อยละ ๒-๓ ควรทาวันละ ๒ ครั้ง ใช้เวลาถึง ๔-๖ เดือนผมจึงจะเริ่มงอก และก็ต้องใช้ต่อเนื่องกันตลอดไป เพราะถ้าหยุดใช้เมื่อไรผมจะร่วงจนกลับเป็นสภาพที่ควรจะเป็นที่อายุนั้น คือต้องทำความเข้าใจว่า ผมบางแบบนี้จะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าเริ่มทายาไปตั้งแต่อายุ ๓๐ ปี แล้วไปหยุดทา ยา เมื่ออายุ ๔๐ ปี ผมก็จะกลับร่วงจนบางลงเท่าที่ควรจะเป็นเมื่ออายุ ๔๐ ปี ซึ่งก็ต้องบางมากกว่าเมื่ออายุ ๓๐ ปีแน่นอน เป็นไปตามวัยที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้เป็นผลเสียของยา
เชื่อว่าการที่ minoxidil ทำให้ผมขึ้นนั้น อาจเกิดจาก การที่เลือดมาเลี้ยงหนังศีรษะมากขึ้น หรืออาจเกิดจากการกระตุ้นรูขุมขนโดยตรง แต่ไม่ได้เกิดจากผลต่อฮอร์โมน เพศชาย ไม่ควรใช้ minoxidil ชนิดกินเพื่อรักษาผมร่วงแบบนี้ เพราะมีข้อแทรกซ้อนได้
ปัจจุบันองค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐ-อเมริกา อนุมัติให้ใช้ยากินรักษาโรคผมบางแบบผู้ชาย คือยา finasteride กินวันละ ๑ มิลลิกรัม โดยที่ยาตัวนี้จะยับยั้งเอนไซม์ 5 alpha - reductase ซึ่งเป็นตัวที่เปลี่ยน ฮอร์โมนเพศชายให้กลายเป็น dihydrotestesterone (DHT) ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้ผู้ชายมีผมบางและต่อมลูกหมากโต ดังนั้น ยา finasteride นอกจากจะใช้รักษาผมบางแล้ว ยังใช้รักษาอาการต่อมลูกหมากโตได้ด้วย แต่ต้องใช้ยาขนาดสูง (วันละ ๕ มิลลิกรัม)
เนื่องจากอาการผมบางแบบผู้ชาย จัดเป็นโรคผิวหนังอย่างหนึ่ง และยาที่ใช้ไม่ว่าจะเป็นยาทาหรือยากินอาจก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนได้ จึงควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังเท่านั้น
- อ่าน 9,508 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้