• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ส่าเหล้าปัตตานี แม่ดอกก้านยาว

 

 
ถ้าไม่ใช่คนในแวดวงไม้หอม คงงงกับชื่อนี้มาก โดยเฉพาะคอเหล้าคงจะคิดว่าไม่ใช่ดอกไม้หอมเป็นแน่แท้ ดอกอะไรจะมีกลิ่นแบบส่าเหล้า แต่จริงๆแล้วถ้ารู้จักสายหยุดไม้หอมของไทยดี รู้จักกับส่าเหล้าปัตตานีอีกต้นหนึ่งก็คงไม่เสียหายอะไร

 
ส่าเหล้าปัตตานี
มีชื่อสกุลเดียวกันกับสายหยุด คือ Desmos แค่คนละสปีชีส์แค่นั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ในวงศ์ Annonaceae หรือวงศ์กระดังงา ที่เราคุ้นเคยกันดี
ชื่อพื้นเมืองของส่าเหล้าปัตตานีมีเยอะมาก เช่น พี้เขา  พีพวนน้อย  (นครพนม) นางดำ (นครศรีธรรมราช)  โยม (มลายู-ปัตตานี) ส่าเหล้าช้าง (ประจวบคีรีขันธ์)

ส่าเหล้าปัตตานี มีชื่อสามัญว่า Dwarf Ylang-Ylang Shrub และชื่อวิทยาศาสตร์คือ  Desmos cochinchinensis Lour.

เกสรของส่าเหล้าปัตตานีมีสรรพคุณทางยา คือใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง และบำรุงโลหิต ในประเทศจีนมีการศึกษาโดยใช้สารสกัดจากรากของส่าเหล้าปัตตานีในการต้านมาลาเรีย
  
จุดเด่นที่เห็นก็ทราบทันทีว่าเป็นส่าเหล้าปัตตานี คือมีก้านดอกที่ยาวมากเมื่อเทียบกับพืชในวงศ์เดียวกัน คือประมาณครึ่งฟุตจนถึงเป็นฟุตก็มี บางคนที่ชอบพรรณไม้ชนิดนี้ก็เลยเรียกว่าแม่ดอกก้านยาว ซึ่งมี  2 แบบคือแบบก้านดอกสีเขียวและก้านดอกสีม่วงเข้มหรือดำ มีกลีบเลี้ยงรูปสามเหลี่ยม ดอกมีกลีบดอก 6 กลีบ กลีบดอกเรียงเป็น 2 ชั้น ชั้นละ 3 กลีบ กลีบชั้นนอกรูปหอก กว้าง 1.5-2.5 เซนติเมตร ยาว 3.5 เซนติเมตร ชั้นในกลีบเล็กและสั้นกว่า

ส่าเหล้าปัตตานีชนิดก้านดอกสีเขียว ดอกมีขนาด เล็กถึงกลาง กลิ่นหอมอ่อนๆ
ส่วนส่าเหล้าปัตตานีก้านดอกดำหรือม่วงเข้ม ดอกมีขนาดกลาง กลิ่นหอมแรงกว่าชนิดก้านเขียวเล็กน้อย แต่ก้านดอกจะยาวกว่าชนิดก้านเขียว ดอกจะห้อย ดิ่งลงมา

ดอกอ่อนมีสีเขียวพอบานเป็นสีเหลือง บานได้สัก 2-3 วัน กลิ่นหอมอ่อนตั้งแต่เช้าและหอมมากขึ้นในตอน กลางคืน ออกดอกตลอดปี และแน่นอนถ้าอยู่ในวงศ์กระดังงาจึงเป็นพวกไม้พุ่มรอเลื้อย สามารถเลื้อยพาดไปได้ไกลเป็นสิบเมตร แตกกิ่งไม่มาก เปลือกนั้นเรียบมีสีน้ำตาล มีจุดสีขาว เนื้อไม้เหนียว โคนใบมน ปลายใบแหลม

ผลของส่าเหล้าปัตตานีเป็นผลกลุ่ม ก้านช่อผลยาว เหมือนก้านดอก มีผลย่อยไม่เกิน 20 ผล  ผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่กลายเป็นสีดำ มี 2-6 เมล็ด ขยายพันธุ์ได้โดยการเพาะเมล็ด และการตอนกิ่ง

ตามธรรมชาติสามารถพบส่าเหล้าปัตตานีขึ้นตาม ป่าดิบชื้นและป่าเบญจพรรณทั่วประเทศ ที่ระดับความสูง 100-600 เมตร ปัจจุบันสามารถหาซื้อมาปลูกกันได้ตามร้านขายต้นไม้หอมไทย อาจจะปลูกเป็นไม้กระถางไว้เลื้อยไปตามต้องการ หรือถ้าจะปลูกส่าเหล้าปัตตานีลงดินต้องทราบว่าเป็นพืชที่ชอบอยู่ในที่ร่มชอบแสงรำไร จะแตกต่างจากต้นสายหยุดที่ชอบแสงแดดและชอบอยู่ที่กลางแจ้ง
      
เอกสารอ้างอิง
เต็ม  สมิตินันท์. 2544. ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2544. ส่วนพฤกษศาสตร์ป่าไม้ สำนักวิชาการป่าไม้ กรมป่าไม้. กรุงเทพฯ. 810 น.

ข้อมูลสื่อ

363-020
นิตยสารหมอชาวบ้าน 363
กรกฎาคม 2552
ต้นไม้ใบหญ้า
ดร.ปิยรัษฎ์ เจริญทรัพย์