• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เด็กห้าเดือนถึงหกเดือน(ต่อจากฉบับที่แล้ว)

                                       

 

 

การเลี้ยงดู

 

 

137 เลี้ยงด้วยนมวัว
เมื่อเด็กอายุได้ 5-6 เดือน ถึงแม้คุณแม่จะให้กินนมมากเกินไป เด็กจะไม่เป็นโรคเกลียดนมเหมือนเมื่อก่อน เด็กที่กินจุให้นมเท่าไรก็กินหมด คุณแม่ต้องระวังอย่าตามใจมากเกินไป เพระจะกลายเป็นเด็กอ้วนเกินไป ปริมาณนมใน 1 วันไม่ควรเกิน 1000 ซี.ซี. (1 ลิตร) เด็กส่วนใหญ่จะกินมื้อละ 200 ซี.ซี. วันละ 5 มื้อ แต่อาจมีบางมื้อที่ 200 ซี.ซี. ไม่พอ เช่นมื้อก่อนนอนกลางคืน ถ้าให้กิน 250 ซี.ซี. เด็กบางคนอาจนอนรวดเดียวถึงเช้า คุณแม่ควรลดนมมื้อตอนกลางวันให้เหลือ 1250 ซี.ซี. สัก 1 มื้อ ถ้าเด็กไม่พอให้น้ำผลไม้หรือน้ำซุปเพิ่มแทนนม

ช่วงอายุ 5-6 เดือนนี้เป็นช่วงที่คุณแม่สร้าง “พื้นฐาน” ให้เด็กกลายเป็น “เด็กยักษ์” ได้ง่าย ดังนั้น ถ้าลูกคุณกินจุต้อง ระวังคอยชั่งน้ำหนักทุก 10 วัน ถ้าใน 10 วันน้ำหนักเพิ่มระหว่าง 150-200 กรัมก็ใช้ได้ แต่ถ้าน้ำหนักเพิ่มมากกว่า 200 กรัมขึ้นไป ต้องระวังอาหารอย่าให้มากเกินไป ถ้าเพิ่มมากกว่า 300 กรัมขึ้นไปแล้วไม่จำกัดอาหาร คุณแม่คอยดูผลงาน “เด็กยักษ์” ของคุณได้เร็ววัน ในกรณีนี้ คุณควรให้น้ำผลไม้หรือน้ำชาก่อนหรือหลังมื้อนม เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กอ้วนเกินจำเป็น นอกจากนั้น เด็กในเดือนนี้เราเริ่มให้อาหารเสริมแล้ว คุณแม่อาจใช้วิธีลดปริมาณนมลงและเพิ่มปริมาณอาหารเสริมให้มากขึ้น เช่น เพิ่มข้าวต้มให้แทนนม เพราะข้าวต้มกินเข้าไปแล้วเพิ่มเนื้อหนังมังสาน้อยกว่านม ถ้าลูกคุณกินเก่ง กินนม 200 ซี.ซี. แล้วยังทำท่าไม่พอ คุณแม่ควรให้กินข้าวต้มหรือน้ำแกงจืดหรือน้ำซุปก่อนแล้วจึงให้กินนมอีก 200 ซี.ซี. (ถ้าเป็นไปได้ควรให้แค่ 180 ซี.ซี.) สำหรับเด็กธรรมดา คุณแม่ให้อาหารเสริมตามปกติและหลังจากนั้นให้กินนมอีก 180 ซี.ซี. ก็ได้

ส่วนเด็กที่ไม่ค่อยชอบกินนมและน้ำหนักเพิ่มน้อยมาก เฉลี่ยวันละต่ำกว่า 10 กรัม คุณแม่ควรเริ่มให้อาหารเสริมเร็วหน่อย และเพิ่มปริมาณให้เร็วกว่าเด็กปกติ โดยทั่วไปเด็กที่กินนมน้อยมักจะกินอาหารเสริมน้อยเช่นกัน คุณแม่ไม่ควรฝืนนิสัยเด็ก โดยการยัดเยียดให้กินมากๆ

เด็กที่คลอดก่อนกำหนดและน้ำหนักแรกเกิดไม่ถึง 2.5 กิโลกรัม เมื่อถึงเดือนนี้ ธาตุเหล็กที่สะสมไว้ในร่างกายจะเหลือน้อยเต็มที คุณแม่จำเป็นต้องเริ่มให้อาหารเสริมตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป

 

 

 

 


138 การให้อาหารเสริม
เราให้อาหารเสริมแก่เด็กอ่อนเพื่อเพิ่มธาตุอาหารที่มีน้อยในน้ำนมและเพื่อหัดให้เด็กคุ้นเคยกับอาหารต่างๆ จนกระทั่งเด็กหย่านมและกินอาหารได้เหมือนคนอื่นในครอบครัว เด็กจะค่อยๆ เริ่มหัดจากอาหารเหลว อาหารอ่อน จนกินอาหารเหมือนผู้ใหญ่ได้ในที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณครึ่งปี โดยเริ่มจากข้าวตุ๋น (จนเหมือนโจ๊ก) เมื่ออายุประมาณ 5 เดือน แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นข้าวต้มธรรมดาเมื่ออายุ 7-8 เดือน และเป็นข้าวสวยเหมือนผู้ใหญ่เมื่ออายุประมาณ 1 ขวบ

อาหารเด็กอ่อน ไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับเด็กอ่อน อาหารที่ผู้ใหญ่กินอยู่ทุกวันก็มีหลายอย่างที่เด็กอายุ 5-6 เดือนกินได้ เช่น ไข่ต้ม เต้าหู้ขาว มันบด ปลาเนื้อขาว หมู เนื้อ ไก่บด ฯลฯ แม่บ้านเก่งๆ จะรู้จักทำอาหารที่ผู้ใหญ่ก็กินได้เด็กก็กินดี โดยไม่ต้องเสียเวลาทำอาหารเด็กอ่อนให้ลูกเป็นพิเศษ คุณแม่ไม่ควรเสียเวลาวันละหลายชั่วโมงประดิดประดอยทำอาหารเด็กอ่อนให้ลูกกิน โดยเฉพาะระยะเวลา 1-2 เดือนแรก ที่เด็กเริ่มหัดกินอาหารเสริม เด็กจะกินมื้อละนิดหน่อยเท่านั้น ถ้าคุณแม่มัวแต่ทำอาหารจะไม่มีเวลาพาลูกไปเดินเล่น คนเราไม่ได้เกิดมาเพื่อกินอย่างเดียว และถ้าจะให้เด็กเป็นผู้เลือกแล้ว คุณหนูคงเลือกที่จะให้คุณแม่พาไปเที่ยวดูเด็กอื่นเล่นกันบ้าง ดูหมาดูแมววิ่งไล่กันนอกบ้านวันละ 2-3 ชั่วโมง ดีกว่ากินข้าวตุ๋น 2 ช้อน ซึ่งคุณแม่ต้องเสียเวลาทำเป็นชั่วโมง สำหรับเด็กที่มีพี่เลี้ยง คุณแม่อาจให้พี่เลี้ยงช่วยพาเด็กไปเที่ยวในช่วงที่คุณแม่ทำอาหาร อย่างไรก็ตาม คุณแม่ควรพาลูกเที่ยวด้วย เพราะเด็กกำลังเรียนรู้ทุกอย่างจากสภาพแวดล้อมและคุณแม่คือครูที่ดีที่สุด

อาหารเสริมต้องเป็นอาหารที่เด็กชอบ ถ้าเด็กไม่ชอบคุณแม่อย่ายัดเยียดให้ลูกกินเพราะคิดว่าอุตส่าห์เสียเวลาทำตั้งนาน ถ้าคุณแม่ฝืนบังคับให้ลูกกินบ่อยๆ เด็กจะปฏิเสธอาหารเสริมและทำให้หย่านมไม่สำเร็จในเวลาอันควร

เด็กแต่ละคนจะยินดีกินอาหารเสริมในระยะเวลาที่ต่างกัน ที่กำหนดว่าควรเริ่มให้อาหารเสริมเมื่อเด็ก
อายุครบ 5 เดือนขึ้นไปนั้น เพราะเด็กส่วนใหญ่จะเริ่มอยากกินอาหารต่างๆ ในระยะนี้ แต่ไม่ได้เป็นข้อบังคับตายตัวว่า เมื่อเด็กอายุครบ 5 เดือนจำเป็นต้องให้อาหารเสริม เด็กบางคนอาจยังไม่พร้อมก็ได้ เมื่อเด็กอายุครบ 5 เดือน คุณแม่ลองให้อาหารเสริมดู เด็กอาจเอาลิ้นดุนออกมาหมด ลองให้ดูอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น ถ้าเด็กยังไม่ยอมกิน คุณรอไปอีกอาทิตย์หนึ่งแล้วค่อยเริ่มลองใหม่ เมื่อคอยไปอีกอาทิตย์หนึ่งแล้วลองอีกครั้งหนึ่ง ถ้ายังไม่ยอมเหมือนครั้งแรกก็รอไปอีกอาทิตย์หนึ่งแล้วค่อยเริ่มใหม่อีกครั้ง ถ้าเริ่มลองด้วยโจ๊กแล้วเด็กไม่ชอบลองเปลี่ยนเป้นขนมปังต้มนม (ขนมปังฉีกละเอียดต้มในนม) หรืออาหารเสริมสำเร็จรูป ในช่วงระยะ 5-6 เดือนนี้เป็นระยะลองให้เด็กรู้จักอาหารเสริม

ถึงแม้เด็กจะอายุครบ 6 เดือนแล้ว เด็กบางคนยังไม่ยอมกิน โจ๊ก หรือขนปังต้มนม เด็กแบบนี้ส่วนใหญ่มักจะไม่ชอบกินของเละๆ ถ้าให้ขนมปังแผ่นโดยไม่ต้มหรือให้ข้าวสวย เด็กจะชอบกิน ถ้าลูกของคุณเป็นแบบนี้คุณแม่ไม่ต้องร้อนใจกลัวลูกขาดสารอาหาร ในช่วงที่เด็กยังไม่มีฟันคุณแม่ก็ให้แต่กับข้าว (เช่น ไข่ตุ๋น มันบด เต้าหู้ขาว ฯลฯ) ไปพลางก่อน พอเด็กพอจะกินข้าวสวยได้ก็หุงให้นิ่มหน่อยแล้วให้ข้าวสวยได้เลย (ข้าวสารผสมข้าวเหนียวเล็กน้อยจะนิ่มขึ้น) สิ่งสำคัญที่สุดในการให้อาหารเสริมคือ ให้อาหารที่เด็กชอบ อย่าบังคับให้กินโน่นกินนี่เพราะกลัวขาดวิตามิน เพราะจะทำให้คุณหย่านมลูกไม่สำเร็จ

นอกจากการบังคับให้เด็กกินอาหารจะไม่ดีแล้ว การปล่อยปละละเลยไม่หัดให้ลูกกินอาหารเสริมเมื่อถึงเวลาที่เด็กอยากกินก็ไม่ดีเช่นกัน เพราะนอกจากจะทำให้เด็กขาดอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายแล้ว ยังทำให้เด็กไม่คุ้นเคยกับอาหารอ่อน อาหารแข็ง จะกินนมท่าเดียวจนโต อย่างนี้ก็เรียกว่าคุณแม่หย่านมลูกไม่สำเร็จเช่นกัน มีเด็กหลายคนทีเดียวที่เป็นเช่นนี้ บางคนโตจน 5-6 ขวบจะขึ้นชั้นประถมแล้วยังต้องนอนดูดขวดนม ข้าวปลาไม่ยอมกิน ซึ่งมีผลเสียหลายประการ เพราะร่างกายได้รับธาตุอาหารไม่พอเพียง (เด็กจะแลดูอ้วนเพราะนม ทำให้คุณแม่พอใจว่าอ้วนดี) แต่ร่างกายจะไม่แข็งแรง มีผลต่อพัฒนาการของสมองและอีกหลายอย่าง ฟันมักจะผุ เมื่อฟันผุปวดฟันบ่อยๆ ก็กินไม่ค่อยได้ เป็นวงเวียนวงกรรมอยู่อย่างนี้ เด็กควรจะกินอาหารเหมือนผู้ใหญ่และหย่าขวดนมเมื่ออายุประมาณ 1 ขวบ (ไม่ได้หมายความว่างดให้นมแก่เด็ก แต่ให้นมเป็นอาหารรองแทนอาหารหลักและค่อยๆ หัดให้ดื่มจากถ้วยไม่ใช่ดูดจากขวดจนโต)


(อ่านต่อฉบับหน้า)
 

ข้อมูลสื่อ

33-006
นิตยสารหมอชาวบ้าน 33
มกราคม 2525