ในภาคแรกผู้เขียนได้กล่าวถึงว่าเอ็นดอร์ฟินส์ หรือ “ฝิ่นภายใน” คืออะไร มีความเป็นมาอย่างไรตลอดจนการใช้อธิบายปรากฏการณ์บางอย่างในร่างกาย อย่างเรื่องของความเจ็บปวด คราวนี้จะได้พูดกันต่อไปถึงบทบาทของ “ฝิ่นภายใน” ที่เราเอาไปใช้ประโยชน์ ในแง่การนำ “ฝิ่นภายใน” มาใช้อธิบายเรื่องดี ๆ ก็เช่น การวิปัสสนา การออกกำลังกาย การอดยาเสพย์ติด ทั้งสามเรื่องนี้ออกจะเชื่อมโยงกันเกี่ยวพันเป็นลูกโซ่
⇒ เอ็นดอร์ฟินส์กับการวิปัสสนา
เมื่อเรานั่งสมาธิ ให้สติพิจารณาอยู่ที่สิ่งใดเพียงสิ่งเดียว ไม่ช้าไม่นานก็จะเข้าสู่ฌานขั้นต้น เกิด ปิติ ไอ้ตัวปิตินี่แหละ มีผู้อธิบายว่า เนื่องมาจากฤทธิ์ของเอ็นดอร์ฟินส์ กล่าวคือ เมื่อแรกนั่งสมาธิ จะมีปวดๆ เมื่อย ๆหรือเป็นเหน็บชาตามแขนตามขา แต่พอบรรลุถึงฌาน ไอ้ความรู้สึกทรมานเหล่านี้ มันจรลีหนีหายไปหมด
ผู้รู้บอกว่า เอ็นดอร์ฟินส์มันหลั่งออกมา (อะไรที่ไปตัวทำให้มันหลั่งยังไม่รู้แน่) แล้วด้วยฤทธิ์ที่เหมือนยาฝิ่น นอกจะจะหายปวดเมื่อยแล้วยังพาให้ใจสบาย เบาเนื้อเบาตัว เคลิบเคลิ้ม เหมือนลอยไปในสวรรค์วิมาน บางทีก็มีนิมิตรต่าง ๆ
ครับนั่นก็เป็นทางหนึ่ง ที่จะบังคับให้เอ็นดอร์ฟินส์หลั่ง
⇒เอ็นดอร์ฟินส์กับการออกกำลังกาย
ใครที่เล่นกีฬาเป็นประจำ คงจะรู้ว่ากีฬาพาให้ใจสบาย เล่นกีฬามาใหม่ ๆ มันสบายอกสบายใจอย่าง
บอกไม่ถูก หรือบางคนก็ว่า ได้ลงไป (สนามกีฬา) ยืดเส้นยืดสายให้เหงื่อออกเสียหน่อย แหม เบาเนื้อเบาตัว ดีจัง
ท่านเคยสงสัยบ้างหรือไม่ครับว่าอะไรทำให้รู้สึกอย่างนั้น
นักวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ขี้สงสัยกว่า หาคำตอบแทนไว้ให้ท่านแล้ว เคล็ดลับมันอยู่ที่ว่ากีฬา พาให้เอ็นดอร์ฟินส์หลั่ง
ครับ พรั่งพรูออกมาเลย เมื่อแรกลงสนามท่านอาจรู้สึกขัด ๆ ยอก ๆ ตึง ๆ เมื่อยๆ พอเล่นไปจนเหนื่อยแทนที่จะเมื่อยมากขึ้น กลับหายไปเพราะไอ้เจ้า “ฝิ่นภายใน” มันชิงกันไหลหลั่งออกมา
⇒“แอโรบิค” ช่วยให้เอ็นดอร์ฟินส์หลั่งได้ดีที่สุด
กีฬาจำพวกแอโรบิคนี้เล่นด้วยความหนักไม่มาก แต่ติดต่อกันนาน ๆ มักเป็นจังหวะจะโคน และมีการใช้พลังงาน โดยการเผาผลาญด้วยออกซิเจน (อันเป็นที่มาของคำ แอโรบิค ซึ่งแปลว่า ใช้อากาศ หรือออกซิเจน นั่นเอง) เป็นส่วนใหญ่
ตัวอย่างได้แก่ วิ่งระยะยาว ว่ายน้ำ และถีบจักรยานทางไกล
⇒ กีฬากับยาเสพย์ติด
จะเห็นได้ว่า พวกที่เล่นกีฬาเหล่านี้จะพากันติดเป็นทิวแถว ทั้งที่กีฬาบางอย่าง เช่นการวิ่ง ดูเผิน ๆ ไม่น่าจะสนุกตรงไหน ทำไมถึงวิ่งกันอยู่ได้ทุก ๆ วัน วันละหลายหมื่นหลายแสนคน (ใครไม่เชื่อ เสาร์ – อาทิตย์นี้ย่องไปดูที่สวนลุมพินี หรือสวนสาธารณะต่าง ๆ ทั่วประเทศได้)
คำตอบอยู่ที่ เจ้า “ฝิ่นภายใน” นี่เอง มันเหมือนกับฝิ่นธรรมดา ที่เป็นยาเสพติด ฝิ่นภายในก็มีฤทธิ์ทำให้ติดได้ เมื่อติดแล้วไม่ได้เสพวันไหน มันจะกระวนกระวายใจ และมีอาการได้ต่าง ๆ นานา
แต่ไม่เป็นไรครับเสพติดชนิดนี้เราถือว่าติด “ของดี” มีแต่ทำให้ใจสบาย ทำงานทำการได้ด้วยความกระฉับกระเฉง ว่องไว หัวคิดก้าวหน้า แจ่มใส อารมณ์เบิกบาน ร่างกายก็แข็งแรงจากการออกกำลังด้วยจึงช่วยเป็นทวีคูณ นอกจากนี้เมื่อไม่ได้เสพ “ฝิ่นภายใน” จะมีอาการ “ถอนยา” ไม่รุนแรงถึงลงแดงอย่างฝิ่นภายนอก และวิธีการบำบัดก็ง่าย ไม่ผิดกฎหมายเสียด้วย เพียงแต่ท่านออกไปเล่นกีฬาตามธรรมดา...ก้อหาย
⇒เอ็นดอร์ฟินส์กับยาเสพย์ติด
ก่อนอื่น มาทำความเข้าใจให้จะ ๆ เสียก่อนว่า เราติดยาได้อย่างไร ปกติร่างกายของเรา จะสร้างเอ็นดอร์ฟินส์ขึ้นมาใช้ในชีวิตประจำวัน (โดยที่เราไม่รู้สึกตัว) แต่การสูญฝิ่น กินไอระเหยจะไปกดการสร้าง เอ็นดอร์ฟินส์ กดอย่างไร?
ดังที่ได้กล่าวไว้ในตอนต้นของบทแรก สารจำพวกฝิ่น และมอร์ฟีนส์จะเข้าไปจับกับ “เบ้า” ที่อยู่ในสมองเรา เมื่อเสพไปมากๆ เข้า “เบ้า” จะถูกจับโดยฝิ่นภายนอกอยู่ตลอดเวลา ทุก ๆ วัน ๆ นาน ๆ เข้า ร่างกายเราไม่เห็นมีความจำเป็นอะไรที่ต้องผลิต “ฝิ่นภายใน” ออกมาใช้ต่อไป ก็จะปิดโรงงาน
⇒“ลงแดง” และ “หักดิบ”
ครั้งเมื่อฝิ่นภายนอกเกิดขาดหายไป จะด้วยหามาเสพไม่ได้ หรือเจ้าตัวสมัครใจไป “ถ้ำกระบอก” ก็แล้วแต่ “เบ้า” ก็จะขาดฝิ่น ฝิ่นภายนอกก็ หยุดไป “ฝิ่นภายใน “ก็ปิดแล้ว คำตอบก็มีอยู่สถานเดียว คือ “ลงแดง” ขี้ยาจะมีอาการกระวนกระวาย คลื่นไส้ อาเจียน ง่วงเหงาหาวนอน เซื่องซึม และสุดท้ายถ้าติดหนัก ๆ และหามาเสพไม่ได้นานไปเข้าก็อาจถ่ายเป็นเลือด (ที่มาของคำว่า “ลงแดง”)หรือตายได้
ถ้ารอดไป ไม่ถึงตาย ไม่ต้องวิตกอะไร ภายในเวลาไม่ช้าไม่นาน โรงงานในร่างกายจะเปิดขึ้นมาใหม่ ผลิต “ฝิ่นภายใน” ออกมาให้ใช้จนเพียงพอ...ก้อหาย
ครับ นี่เป็นวิธีการที่ขี้ยานำไปรักษาตัวเองได้ เรียกว่า “หักดิบ” ซึ่งวิธีนี้ แม้สถานรักษาที่มีชื่อเสียงบางแห่งก็ใช้อยู่
⇒อดยา “แผนปัจจุบัน”
ส่วนการรักษาการเสพติดที่ใช้ในการแพทย์แผนปัจจุบัน อาศัยหลักการที่ว่า ค่อย ๆ ป้อนยาที่มีฤทธิ์คล้ายฝิ่นเข้าไปแทน แล้วจึงลดยาลงทีละน้อย เพื่อเปิดโอกาสให้โรงงานภายในได้ผลิตเอ็นดอร์ฟินส์ออกมาใช้ จนเมื่อผลิตได้เพียงพอ และความต้องการฝิ่น (ภายนอก) ในปริมาณมากผิดปกติหายไป ก็จะถอนยาออกทั้งหมด คน ๆ นั้น ก็จะหายจากการเสพติด
⇒กลับไปเสพใหม่...เรื่องปวดกระดองใจ
แต่ส่วนที่ว่า ผู้เสพกลับไปติดยาใหม่ เป็นเรื่องที่ปวดกระดองใจของทุก ๆ ฝ่าย และเป็นสิ่งที่ดูเหมือนว่าจะแก้ไม่หาย เปอร์เซ็นต์ผู้กลับไปหายาเสพย์ติดใหม่ในทุกสถานรักษา มีอัตราสูงมาก
อันนี้บางคนก็โทษที่สภาวะแวดล้อม และสิ่งชักจูงให้ผู้เสพติดยาตั้งแต่ครั้งแรก ว่ายังไม่ได้รับการแก้ไขหรือพยายามแล้ว แต่แก้ไม่ได้
⇒ “ฝิ่นภายใน” ใช้รักษาผู้ติดยา
เวลานี้มีบางคนเชื่อว่า การนำเอา “ฝิ่นภายใน” มาใช้รักษาพวกติดยาน่าจะให้ผลดีเขาให้เหตุผลว่าพวกติดยาเมื่อได้รู้รสของยาเสพย์ติดเสียครั้งหนึ่งแล้ว ก็ยากที่จะให้ลืมได้ เมื่อบวกกับสภาพแวดล้อมทางสังคมและจิตใจ ที่ชักนำไปสู่ยาเสพย์ติด ก็ทำให้ถอนตัวได้ยาก
ถ้ากระนั้น ก็ไม่ต้องไปชักจูงให้เขาเลิกยาเสพย์ติด แต่ให้หันมาเสพติดอย่างใหม่ อันได้แก่ ติด “ฝิ่นภายใน” ไปเสียเลย จะไม่ดีกว่าหรือ
ครับ ข้ออ้างของกลุ่มนี้ก็ฟังมีเหตุมีผลดี และมีผู้นำไปปฏิบัติแล้วได้ผลดีกันหลายราย ที่ว่าดีคือ ไม่เพียงแต่อดยาได้ในครั้งแรก(ซึ่งใคร ๆ ก็ทำได้ แม้ผู้ไม่มีความรู้ทางการแพทย์) เท่านั้น แต่ยังสามารถรักษาตัวให้ห่างยาเสพย์ติดได้ถาวร มันเป็นสิ่งที่เป็นไปได้และอยากจะให้ทดลองใช้กันแพร่หลายออกไป วิธีการที่จะทำให้เอ็นดอร์ฟินส์ในกลุ่มติดยาหลั่งออกมา มักใช้ การออกกำลังกาย ที่ง่าย และสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายน้อยที่สุ คือการวิ่ง
สิ่งเหล่านี้ประมวลมาได้ จากทางฝ่ายแพทย์ และในตอนหน้าเราจะดูกันว่า ด้านผู้ติดยา เขามีความรู้สึกนึกคิดอย่างไร ต่อการได้อดยาโดยวิธีที่ว่านี้
- อ่าน 3,481 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้