มะเร็งเป็นได้กับคนทุกกลุ่มอายุ แต่อายุมากขึ้นอัตราเสี่ยงก็มีมากขึ้นด้วย การมีชีวิตอยู่อย่างถูกสุขอนามัยเป็นการป้องกันมะเร็งได้ดีที่สุด
ดร. เนสตา วิน เอลลิส แห่งชิคาโก ได้รวบรวมผลงานการวิจัยเรื่องมะเร็งไว้มาก ท่านกล่าวว่า อย่างน้อยในปีที่แล้วสหรัฐอเมริกาได้ใช้เงินไปถึง 1.75 พันล้านดอลลาร์ เป็นผลให้เราได้รับความรู้มากขึ้น และอัตราอยู่รอดภายหลังเป็นมะเร็งก็มากขึ้นด้วย
ต่อไปนี้เป็นความรู้ใหม่ ๆ เกี่ยวกับมะเร็ง
1. มีระยะไหนของอายุคนเราที่เป็น “ภัยอันตราย” สำหรับมะเร็ง
มะเร็งเป็นได้กับคนทุกกลุ่มอายุ แต่อายุมากขึ้นอัตราเสี่ยงก็มากขึ้นด้วย ที่เป็นกันมากที่สุดคือ มะเร็งปอด ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการสูบบุหรี่ แต่ใช้เวลานานกว่าจะปรากฏอาการระยะหลังสงครามโลก หญิงอเมริกัน สูบบุหรี่กันมากขึ้น ทำให้อัตราการเป็นมะเร็งสูงขึ้นในหญิงอายุเลย 60 ไปแล้ว
2. มะเร็งเป็นกรรมพันธุ์ไหม
การวิจัยยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นกรรมพันธุ์ แต่มะเร็งที่ลำไส้ใหญ่พบว่าเป็นกันมากในบางครอบครัว แต่การวิจัยก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นเพราะกรรมพันธุ์
3. การสูบบุหรี่ยังเป็นการเสี่ยงที่สุดใช่หรือไม่
แน่นอนที่สุด ร้อยละ 90 ของมะเร็งปอดเกิดมาจกการสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ยังมีส่วนในมะเร็งที่ส่วนอื่น ๆ ด้วย เช่น หลอดลม, ปาก, กล่องเสียง, กระเพาะปัสสาวะ, ตับอ่อน และไต
ผู้ไม่สูบ แต่ได้รับควันบุหรี่บ่อย ๆ จะทำให้เกิดอันตรายได้อย่างที่เรียกกันว่า แพะรับบาป (passive smoker) มีการเสี่ยงต่อมะเร็ง (ที่เกี่ยวกับการสูบบุหรี่) มากขึ้นอีกร้อยละ 30
4. อัตราเสี่ยงจากสิ่งแวดล้อม มีอย่างไรบ้าง
ผู้ที่อยู่ในชนบทมีความเสี่ยงน้อยกว่าผู้ที่อยู่ในเมืองใหญ่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีมลพิษสูง
5. การสำส่อนทางเพศ นำไปสู่โรคมะเร็งใช้ไหม
มะเร็งจากปากมดลูกเป็นมากในหญิงที่มีกิจกรรมทางเพศตั้งแต่อายุน้อย ๆ
การป้องกันที่ได้ผลคือ การตรวจสอบหญิงทุก ๆ 2 หรือ 3 ปี ทำให้การเป็นมะเร็งปากมดลูกของเธอลดลงประมาณร้อยละ 30
6. การอาบแดดเสี่ยงสูงไหม
มีหลักฐานว่าการผึ่งแดดจัด ๆ แม้แต่จะเป็นครั้งคราว ก็สามารถทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังมากขึ้น เช่น ชาวสแกนดิเนเวียใน 10 ปีที่แล้วมีอัตราการเป็นมะเร็งขึ้นสูงถึงสองเท่า
7. อาหารบางชนิดช่วยป้องกันมะเร็งได้ใช่ไหม
ยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่า อาหารบางชนิดทำให้เกิดหรือป้องกันมะเร็งได้
แต่รู้สึกจะมีความเกี่ยวข้องกันบ้าง ระหว่างมะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ใหญ่กับการกินอาหารประเภทไขมันสูง และกาก (เส้นใยอาหาร) น้อย
ในบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น พบว่า อาหารที่มีไขมันต่ำและกากมาก ทำให้มะเร็งเหล่านี้ลดลง แต่ถ้าเป็นหญิงญี่ปุ่นที่มาอยู่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งกินอาหารที่มีไขมันสูง และมีกากน้อย ถ้าได้ศึกษาถึงชั้นลูกหลานจะไม่พบภูมิต้านทานดังกล่าว
การป้องกันที่เห็นได้ง่าย ๆ คือ การพยายามกินอาหารสดและอาหารที่ไม่ปรุงแต่งมากนัก เช่น ขนมปังสีน้ำตาล, ข้าวซ้อมมือ, ถั่ว และมันฝรั่ง อาหารที่มีกากมาก เช่น ส้มและพืชกินใบทุกชนิดจะช่วยขับเคมีวัตถุบางชนิดที่เป็นอันตรายออกจากร่างกาย อาหารที่มีวิตามินและเกลือแร่มาก อาจจะช่วยป้องกันมะเร็ง แต่ก็ยังไม่มีการพิสูจน์
8. ถ้าท่านออกกำลังกายจะทำให้การเสี่ยงต่อมะเร็งลดน้อยลงหรือเปล่า
อาจเป็นได้ ท่านควรรักษาร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ความอ้วนเกี่ยวข้องกับมะเร็งของเยื่อบุโพรงมดลูกและของถุงน้ำรังไข่ มะเร็งที่รังไข่จะพบมากในหญิงที่อ้วนมาก ๆ และการวิจัยในสหรัฐอเมริกา เมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่า ในบั้นปลายชีวิต นักกีฬาจะเป็นมะเร็งของเต้านม และอวัยวะสืบพันธุ์น้อยลง
วารสารบริติช เจอร์นัล ออฟแคนเซอร์ สรุปสาระสำคัญของการวิจัยว่า “การฝึกซ้อมของนักกีฬาหญิงเป็นระยะเวลานาน ๆ จะช่วยทำให้การเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมและระบบสืบพันธุ์น้อยลง”
9. มะเร็งติดต่อกันได้ไหม
ในแอฟริกา เนื้องอกบางชนิด เช่น มะเร็งปากมดลูก เกี่ยวข้องกับไวรัสแน่ ไวรัสของโรคตับอักเสบ บี ติดต่อกันได้ง่าย และขณะนี้เป็นกันประมาณ 200 ล้านคนทั่วโลก ถึงแม้จะเป็นกันมาในโลกที่ 3 แต่ในตะวันตกก็พบมากขึ้นในกลุ่มรักร่วมเพศและติดยาเสพติด
ไวรัสและมะเร็งของตับเกี่ยวข้องกันแน่ แต่ก็เป็นโรคที่ป้องกันได้
ไวรัสเอดส์ยังไม่มียารักษาได้แน่นอน
การต่อสู้กับมะเร็งยังเดินหน้าต่อไป แต่คนเราก็ยังมีทางป้องกันตัวเราได้ เช่น เปลี่ยนนิสัยบางอย่างเสีย (เช่น การไม่สูบบุหรี่ หรือให้ความสนใจกับอาหามากขึ้น) การมีชีวิตอยู่อย่างถูกสุขอนามัย เป็นการป้องกันมะเร็งได้ดีที่สุด
น.พ.สุพจน์ ขวัญมิตร
- อ่าน 3,536 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้