การช่วยคนติดเหล้าให้พ้นไปจากหล่มลึกของแอลกอฮอล์เมื่ออายุ 40 นั้นสายเกินไปแล้ว เราต้องหาทางป้องกันตั้งแต่ลูกหลานของเรามีอายุได้ 11 ปีขึ้นไป
ใครที่คิดว่าการติดเหล้าเป็นปัญหาของผู้ใหญ่ เห็นทีจะถูกหาว่าล้าหลังในการรับรู้ข้อมูลเสียแล้วละครับ
เพราะศาสตราจารย์จาวาด คาชานี ผู้สอนวิชาจิตเวชศาสตร์ ในคณะแพทย์ศาสตร์ ของมหาลัยมิสซูรี-โคลัมเบีย ได้เสนอผลการศึกษาล่าสุดเกี่ยวกับการติดเหล้าในหมู่ชาวอเมริกันว่า “ผู้ใหญ่ติดเหล้าที่เราได้ศึกษา จำนวน 4 ใน 5 เริ่มดื่มเหล้าเป็นนิสัยตั้งแต่อายุไม่ถึง 18 เลยทีเดียว”
จากการศึกษาของนายคาชานี พบว่า อายุเฉลี่ยที่บุคคลเริ่มจะดื่มเหล้าเป็นปกตินิสัยนั้น อยู่ที่วัย 13 ปี แต่ก็มีผู้ใหญ่ติดเหล้าจำนวนไม่น้อยที่ริอ่านดื่มเหล้าในวัยเด็กกว่านี้ คือบ้างก็ตั้งแต่อายุ 11 ปี บ้างก็ตั้งแต่อายุ 9 ขวบนั่นเทียว!
การศึกษาของอาจารย์คาชานี กระตุ้นให้สังคมและพ่อแม่ต้องหันมาใส่ใจกับเรื่องนิสัยในการดื่มของลูกหลานวัยเด็กและวัยรุ่นกันให้มากยิ่งขึ้น อาจารย์คาชานีเตือนผู้ใหญ่ว่า “การช่วยคนติดเหล้าให้พ้นไปจากหล่มลึกของแอลกอฮอล์เมื่อเขาอายุ 40 ปีน่ะ สายเกินไปแล้วครับ ที่ถูกเราต้องหาทางป้องกันตั้งแต่ลูกหลานของเรามีอายุได้ 11 ปีขึ้นไปซิครับ เพราะนี่เป็นวัยที่เด็กอเมริกันเริ่มริอ่านที่จะลิ้มรสแอลกอฮอล์เป็นครั้งแรกในชีวิต”
เรื่องของการติดเหล้านี้ไม่ต่างไปจากการติดบุหรี่ในวัยเด็กและวัยรุ่นเลย กล่าวคือ ผู้ที่ติดเหล้าส่วนใหญ่จะเริ่มรู้จักกับแอลกอฮอล์ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัยรุ่น โดยที่ผู้ชายจะติดเหล้าได้ง่ายตั้งแต่วัยรุ่น ขณะที่ผู้หญิงมักจะเริ่มติดเหล้าช้ากว่าผู้ชาย แต่ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ตกเป็นทาสของเหล้าตั้งแต่วัยน้อย ๆ มักจะประสบกับปัญหาอื่น ๆ ติดตามมาเป็นขบวน เช่นว่า วัยรุ่นนักเรียนที่ติดเหล้ามักจะมีปัญหากับครู อาจารย์ หรือผู้ปกครอง หรือในบางกรณีก็อาจจะพยายามฆ่าตัวตาย เป็นต้น นี่ยังไม่นับถึงผลเสียต่อสุขภาพที่มีอีกมากมายนะครับ
อาจารย์คาชานีชี้ว่า สาเหตุที่ทำให้เด็กวัยรุ่นกลายเป็นเด็ก “วัยเหล้า” ก็เพราะรัฐบาลอนุญาตให้มีเหล้าในรูปแบบต่าง ๆ วางขายอยู่ในท้องตลาด และเพราะแบบอย่างการดำเนินชีวิตของพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือผู้ใหญ่ในครอบครัว ตลอดจนอิทธิพลของเพื่อนนั่นเอง
อาจารย์คาชานีเสนอทางออกว่า คนในครอบครัว ชุมชน และรัฐบาลจะต้องริเริ่มโครงการให้ความรู้ที่ถูกต้องในเรื่องนี้แก่เด็กอย่างจริงจัง ตั้งแต่ยังไม่ย่างเข้าสู่วัยรุ่น เพื่อที่ว่า ความนิยมในการดื่มแอลกอฮอล์สารพัดรูปแบบจะได้ไม่ถูกปลูกฝังในเด็กตั้งแต่ต้นมือ สำหรับพ่อแม่นั้น หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องให้ความสนใจลูกของตนให้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาและความพยายามมากมายเพียงใดก็ตาม พ่อแม่ควรจะต้องติดตามดูการใช้เวลาของลูก ๆ ว่าเป็นอย่างไร จะต้องสำรวจว่าลูก ๆ ใช้เงินไปกับสิ่งใด และคนประเภทไหนที่เป็นเพื่อนกับลูกชายและลูกสาวของตน
ข้อแนะนำข้างต้นไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับพ่อแม่ชาวไทยครับผม !
(จาก USA Today ฉบับกุมภาพันธ์ 2531 หน้า 3)
- อ่าน 1 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้