การประชุมสัมมนาของผู้นำเยาวชน จากสถาบันการศึกษา ระดับอุดมศึกษาในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง จำนวน 49 คนเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจัดโดยสมาคมพิทักษ์ประโยชน์ ผู้บริโภคและกลุ่มอาสาสมัครเพื่อผู้บริโภคได้สำรวจการใช้และการจำหน่ายยาฆ่าแมลงในย่านภาษีเจริญ พบว่าเกษตรกรในแถบนั้นยังไม่มีความรู้ ความเข้าใจและการปฏิบัติยังไม่ถูกต้อง เช่น ไม่ใช้เครื่องมือป้องกันในระหว่างฉีดพ่น หรือการผสมยาก็ใช้มือเปล่า ๆ สัมผัสกับยาฆ่าแมลงโดยตรง การเก็บรักษายาก็เก็บไว้ในที่พักอาศัย ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วควรจะเก็บไว้ห่างที่พักประมาณ 10 เมตร
ทางด้านทัศนคติต่อการใช้ยาพบว่า เกษตรกรไม่ได้คำนึงถึงอันตรายของยาที่จะทำลายสภาพแวดล้อมให้สูญเสียไป เช่น มีการปล่อยให้ฟุ้งกระจายและปล่อยให้ยาไหลลงสู่ลำคลอง มีการเก็บเกี่ยวผลิตผลก่อนที่ยาจะสลายไป มีการนำภาชนะบรรจุยาที่ใช้หมดแล้วมาขายให้กับร้านขายของ ทั้ง ๆ ที่ควรจะทำลายทั้ง นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายยาฆ่าแมลงที่มีฤทธิ์ร้ายแรงซึ่งองค์การอนามัยโลกจัดสารนี้ว่า เป็นวัตถุมี พิษที่มีอันตราย เช่น เมทิลพาราไทออน บางประเทศถึงกับออกกฎหมายห้ามใช้แล้ว แต่ในประเทศไทยเรายังมีการจำหน่ายอย่างแพร่หลาย
หลังจากการสำรวจแล้ว ได้มีการรวบรวมข้อมูลเพื่อหาหนทางแก้ไข ซึ่งทางกลุ่มที่สำรวจได้เสนอแนะว่า รัฐบาลควรจะมีการควบคุมอย่างเข้มงวดในเรื่องการอนุญาตนำเข้ายาฆ่าแมลงเป็นพิเศษ และออกกฎหมายให้เกษตรกรสวมเครื่องป้องกันอันตรายในขณะที่พ่นหรือฉีดยา กำหนดคุณสมบัติของผู้ขายยาฆ่าแมลง และที่ตั้งของร้านขายไม่ควรจะให้ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้กับร้านขายเครื่องอุปโภคและบริโภค
- อ่าน 3,223 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้