คีลอยด์แผลเป็นยักษ์

คีลอยด์แผลเป็นยักษ์
               

”คุณหมอคะ ทำไมแผลเป็นที่คุณหมอเย็บไว้ ปูดโต น่าเกลียดจังค่ะ? มันเกี่ยวกับที่ดิฉันกินไข่ กินส้มหรือเปล่าคะ ญาติ ๆ เขาบอกว่าเป็นเพราะดิฉันไม่เชื่อเรื่องของแสลง...”

“คุณมีแผลเป็นที่อื่นอีกหรือเปล่า”

“อ้อ...มีค่ะ ตรงต้นแขนที่เคยฉีด บีซีจี.สมัยเด็ก ๆ ก็เป็นแผลปูดเช่นกันค่ะ”

“นี่แหละเขาเรียกว่าคีลอยด์ หมออยากเรียกว่าแผลเป็นยักษ์”

“โอ้ ฟังแล้วน่ากลัวจัง มันจะกลายเป็นมะเร็งหรือเปล่าคะ ?”

“ไม่หรอกครับ มันเป็นเพียงเนื้องอกชนิดหนึ่ง ที่ไม่เป็นพิษเป็นภัย นอกจากทำใหแลดูไม่สวยเท่านั้น”

“เกิดจากอะไรหรือคะ ?”

“เกิดจากธรรมชาติของคนที่แตกต่างกัน หมายความว่าคุณมีเนื้อหนังที่แตกต่างจากคนอื่นๆ ไปบ้าง เวลาเป็นแผล เมื่อหายแล้วจะเป็นแผลปูดโตกว่าปกติ ไม่เกี่ยวกับของแสลงอะไรทั้งสิ้น...ไข่ เนื้อ ส้ม ของเปรี้ยว ล้วนมีประโยชน์ในการสมานแผล...”

“ถ้าเช่นนั้น คุณหมอช่วยผ่าเอาแผลปูดนี้ออกไป แล้วเย็บให้สวย ๆให้เห็นเพียงรอยแผลเป็นเล็ก ๆ เหมือนคนทั่วไปจะได้ไหมคะ ?”

“ผ่าเอาออกมันง่าย แต่สำหรับเนื้อหนังของคุณ ยิ่งผ่าแผลเป็นจะยิ่งปูดน่าเกลียดเข้าไปใหญ่เพราะคีลอยด์นี่เป็นธรรมชาติของคุณ”

“แล้วจะมีวิธีแก้ไขอย่างไรคะ ?”

“ก็คงต้องยอมรับในความเป็นธรรมชาติของคุณ นึกเสียว่าธรรมชาติหรือพระเจ้าสร้างคุณมาแบบนี้ จะได้สบายใจ”

“ไม่มีวิธีแก้ไขอื่นใดเลยหรือคะ?”

“มีอยู่วิธีหนึ่ง คือ ฉีดยาชนิดหนึ่งเข้าไปในเนื้อแผลเป็น จะช่วยให้ฝ่อเล็กลง แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน ก็จะกลับปูดได้ใหม่”

“อยู่ได้นานเท่าไรคะ ?”

“ก็อาจเป็นปีสองปี...”

“ดิฉันอาจลองดูสักครั้ง...ถ้าปูดอีก ก็เห็นทีจะต้องยอมรับในธรรมชาติของเนื้อหนังตัวเองตามที่คุณหมอแนะนำ”

“คงยังไม่หมดความหวังเสียทีเดียวหรอกครับ ขณะนี้มียาอยู่ชนิดหนึ่งเป็นพวกรดวิตามิน เชื่อว่ารักษาแผลเป็นยักษ์ได้ ขณะนี้แพทย์ทางผิวหนังในต่างประเทศกำลังทดลองกันอยู่ ปรากฏว่าได้ผลดีพอสมควร ถ้าเป็นผลสำเร็จก็คงมีการนำมาใช้กันกว้างขวางขึ้นเพราะใช้ง่ายเพียงแต่ใช้ทาเท่านั้นเอง”