โพรไบโอติกคือสิ่งมีชีวิต หรือสารเคมีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้
หน้าที่ของโพรไบโอติกต่อสุขภาพและความปลอดภัยก็คือช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารมากขึ้น สร้างเอนไซม์ช่วยย่อยอาหาร ป้องกันและลดการเกิดโรคที่เกิดจากการติดเชื้อ อาหารเป็นพิษ ลด กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน รักษาอาการท้องผูก มีคุณสมบัติต้านการก่อกลายพันธุ์และสารก่อมะเร็ง เป็นต้น
ดร.ชื่นจิต ประกิตชัยวัฒนา อาจารย์ภาควิชาเทคโนโลยีอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ข้าวหมาก (ข้าวหมัก) เป็นผลิตภัณฑ์จากข้าวที่อยู่คู่สังคมไทยมานาน คนโบราณกล่าวว่าผู้หญิงควรกินข้าวหมาก เพราะข้าวหมากเป็นยาร้อนจะช่วยบำรุงเลือดลมของสตรี ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งไม่เป็นสิวฝ้า
ปัจจุบันพบว่าข้าวหมากมีธาตุสังกะสีมากช่วยลดการเกิด และรักษาสิว อีกทั้งทำให้การเจริญเติบโตของเด็กดีขึ้น ในผู้ใหญ่ ก็เช่นกัน ถ้าเป็นไข้ผอมแห้งมักจะแนะนำให้กินข้าวหมากกับน้ำต้มเคี่ยวของแก่นขี้เหล็กและเพิ่มข้าวหมากลงไปผสมอีก
"ข้าวหมาก" นอกจากจะเป็นอาหารประกอบงานมงคลแล้ว บางท้องถิ่นนำข้าวหมากมาใช้เป็นเครื่องปรุงแต่งรสให้กับอาหารอีกหลายชนิด เช่น ปล่าเจ่า ด้วยการหมักปลาใส่เกลือแล้วนำไปคลุกกับข้าวหมากและใส่ไหหมัก 15 วัน จะได้รสชาติปลาเจ่าเปรี้ยว เค็ม นำมาหลนหรือทอดกินได้
ภูมิปัญญาการใช้โพรไบโอติกรักษาโรคและส่งเสริมสุขภาพนี้เป็นวัฒนธรรมร่วมของคนตะวันออก เช่น ญี่ปุ่นมีนัตโต (ถั่วหมักจุลินทรีย์ มียางเหนียวๆ) เกาหลีมีกิมจิ อินเดียมีโยเกิร์ต ซึ่งปัจจุบันมีโพรไบโอติกสำเร็จรูปจำหน่ายแพร่หลายในตลาดโลก
คนไทยควรหันมาหาโพรไบโอติกของไทยนั่นคือข้าวหมากนั่นเอง
- อ่าน 11,347 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้