กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยได้รับสนับสนุนจากกองทุนโลก เปิดตัวโครงการรณรงค์ "เอดส์ รู้เร็ว รักษาได้" โดยหวังให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบและเข้าใจเกี่ยวกับการติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์มากขึ้น รวมทั้งยังช่วยกระตุ้นให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์ที่ยังไม่ได้รับการรักษาเข้าสู่ระบบการรักษา
นายแพทย์อนุพงศ์ ชิตวรากร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารโครงการกองทุนโลก และตัวแทนกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าภายใต้การสนับสนุนจากกองทุนโลก (Global Fund) เพื่อสร้างความเข้าใจ เห็นความเสี่ยง และมีทางเลือกในการลดพฤติกรรมความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี รวมถึงการส่งเสริมการเข้าถึงการรักษาและการประชาสัมพันธ์เผยแพร่โครงการรณรงค์ให้ผู้ที่เข้าข่ายความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี และผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีเข้ามารับรักษาตามหน่วยบริการต่างๆ
"ปัจจุบัน คาดว่า มีคนไทยติดเชื้อเอชไอวีแล้วกว่า 800,000 คน แต่มีประมาณ 140,000 คนเท่านั้น ที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส
ที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อจำนวนไม่น้อยที่ต้องเสียชีวิตเร็วกว่าที่ควร โดยสาเหตุหนึ่งมาจากการไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม และอีกจำนวนหนึ่งยังคงใช้ชีวิตไปตามเดิม อยู่ร่วมกับคนอื่นในชีวิตประจำวันได้โดยที่ไม่มีปัญหาอะไร เลยทำให้คิดไม่ถึงและเมื่อมีเพศสัมพันธ์กับคู่ของตนเอง โดยที่ไม่ได้นึกถึงเรื่องเอดส์ จึงไม่ได้นึกถึงเรื่องการป้องกัน
การที่คนเราจะได้รับเชื้อเอชไอวีหรือที่เรียกกันจนติดปากว่า "ติดเอดส์" ได้นั้น ไม่ใช่เรื่องที่จะติดกันได้ในการใช้ชีวิตประจำวัน หากต้องมีช่องทางการติดที่เฉพาะจริงๆ เท่านั้น
คนส่วนใหญ่จะกังวลกับการติดเชื้อเอชไอวีจากช่องทางที่มีโอกาสเสี่ยงน้อยมากๆ เช่น การช่วยคนประสบอุบัติเหตุ การสัมผัสกับเลือด แต่มักจะไม่คิดถึงช่องทางที่มีความเสี่ยงสูง เช่น จากวิถีชีวิตทางเพศ และจากพฤติกรรมทางเพศที่กระทำอยู่เป็นประจำเช่นการ มีคู่มากกว่าหนึ่งคน หรือการที่ไม่รู้ว่าคู่ของตนเองยังคงมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นอยู่และไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง โดยมีข้อมูลยืนยันชัดเจนว่า กว่าร้อยละ 80 ของผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ติดจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน" นายแพทย์อนุพงศ์กล่าว
- อ่าน 11,725 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้