ประเพณีตักบาตรดอกไม้ในฤดูกาลเข้าพรรษานั้น มีดอกไม้หลายชนิดที่ใช้ตักบาตร ถ้าใครเคยไปที่อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี จะเห็นดอกไม้งดงามหลายชนิดที่ใช้ตักบาตรถวายพระ เช่น ดอกมะลิ ดอกบัว ดอกกล้วยไม้ ดอกดาวเรือง เป็นต้น
แต่หนึ่งในนั้น เป็นดอกไม้ที่นิยมใช้ในการตักบาตร ก็คือดอกหงส์เหิน หรือที่เรียกกันให้เข้ากับประเพณีว่า ดอกเข้าพรรษา ซึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า (Globba winiti) ด้วยลักษณะของดอกที่คล้ายตัวหงส์ ที่กำลังเหินบินอย่างสง่างามจึงเรียกว่าดอกหงส์เหิน
แน่นอนว่าถ้าดูลักษณะภายนอกแล้ว ถ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญทางพฤกษศาสตร์ หรือแม้แต่นักพฤกษศาสตร์สมัครเล่น แค่มองปราดเดียวก็สามารถทราบได้ว่าอยู่ในวงศ์ขิง
ตามหลักการจำแนกตามหลักอนุกรมวิธานนั้น จัดให้อยู่ในสกุลกลอบบา (Globba) มีลักษณะคล้ายกับต้นกระชายหรือขมิ้น ลำต้นไม่สูงมากนักคือไม่เกิน 1-2 ฟุต จากดิน ชอบขึ้นในป่าร้อนชื้น สามารถขึ้นใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ พบในประเทศไทย พม่า เวียดนาม เป็นไม้ดอกลำต้นขึ้นเป็นกอจากหัวหรือเหง้าใต้ดิน สำหรับดอกนั้นมีขนาดเล็กออกเป็นช่อ
ส่วนยอดของลำต้นยาวประมาณครึ่งฟุต ช่อดอกมีลักษณะอ่อนช้อยสวยงาม ประกอบด้วยดอกจริง 1-3 ดอก มีหลายสี เช่น เหลือง เหลืองแซมม่วง เขียว แดง ขาว เป็นต้น ด้วยสีเหลืองที่สดใส ทำให้มองไกล
เหมือนหงส์กำลังบิน ใบของดอกเข้าพรรษาจัดเป็นใบเดี่ยวรูปหอกออกเรียงสลับซ้ายขวาเป็นสองแถว ด้วยเอกลักษณ์ที่ดอกเข้าพรรษา อันเป็นที่มาของชื่อนี้ เนื่องมาจากในแต่ละปีจะออกในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษาเท่านั้น
การตักบาตรถวายพระจะนำดอกเข้าพรรษาจัดรวมกับธูปเทียนเพื่อตักบาตรถวายพระ โดยเชื่อกันว่า เมื่อนำดอกเข้าพรรษามาตักบาตรจะได้บุญกุศลแรง โดยนิยมตักบาตรด้วยดอกเข้าพรรษาที่มีสีขาว ซึ่งหมายถึงความบริสุทธิ์แห่งพระพุทธศาสนา และที่มีสีเหลือง หมายถึงสีแห่งพระสงฆ์ ที่จังหวัดสระบุรีนี้ได้จัดพิธีตักบาตรดอกไม้ ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี และเป็นสถานที่ประดิษฐาน "รอยพระพุทธบาท"
สำหรับคนกรุงเทพมหานคร สามารถชื่นชมทุ่งดอกเข้าพรรษาได้ที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ที่ตั้งอยู่บนถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร ที่กำลังชูช่อดอกบานสะพรั่งงดงาม
- อ่าน 6,650 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้