เครียด...ระวังโรคผิวหนังถามหา

ปัญหาการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาหนี้สินรุมเร้า น้ำตาลก็ขึ้นราคา น้ำมันก็ขึ้นตลอด โลกก็ยังร้อน แฟนก็มีกิ๊ก เพื่อนก็ยืมเงิน และอีกนานาปัญหาที่เกิดขึ้นโลกสีหม่นใบนี้ ล้วนแต่ทำให้ผู้อ่านเกิดความเครียด

ความเครียดมีลักษณะที่แตกต่างไปจากดอกเบี้ย เพราะดอกเบี้ยยิ่งธนาคารให้มากขึ้นก็ยิ่งดี แต่ความเครียดยิ่งมากขึ้นก็ยิ่งแย่

ความเครียดเป็นตัวการร้ายก่อให้เกิดโรคหลายชนิด เช่น โรคหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง แผลกระเพาะอาหาร หืด ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ และโรคจิตโรคประสาท

นายแพทย์ประวิตร พิศาลบุตร ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง กล่าวว่า ความเครียดนอกจะทำให้เกิดโรคหลายชนิดแล้ว ยังทำให้เกิดโรคผิวหนังอีกด้วย

เมื่อเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียดคือคอร์ติซอล ทำให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น เกิดอาการผิวมัน สิว และโรคผิวหนัง อื่นๆ ความเครียดยังส่งผลทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายต่ำลงทำให้ผิวหนังติดเชื้อง่าย เกิดโรคเริมกำเริบ งูสวัด แผลหายช้า และมะเร็งผิวหนังสูงขึ้น

นอกจากนั้นความเครียดยังกระตุ้นให้เกิดโรคผิวหนังอีกหลายโรค เช่น โรคเซ็บเดิมซึ่งมีอาการเป็นผื่นแดงตามหน้าผาก แก้ม คิ้ว แนวไรผม และทำให้เกิดโรคผิวหนังภูมิแพ้ และที่มองข้ามไม่ได้คือความเครียดจะทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าเกร็งตัว เกิดเป็นรอยย่นลึกที่ใบหน้า เช่น ที่หน้าผาก และหัวคิ้ว ทำให้ดูแก่ก่อนวัย

อีกทั้งบางคนเวลาเครียดจะกัดเล็บ ซึ่งนอกจากมีผลเสียต่อบุคลิกภาพแล้ว ยังอาจทำให้เกิดการถ่ายทอดเชื้อโรคจากเล็บเข้าสู่ปาก

เพื่อลดความเครียด ควรทำจิตใจให้เบิกบานแจ่มใสเสมอ ออกกำลังกาย ร่างกายจะหลั่งสารความสุขที่เรียกว่าเอ็นดอร์ฟิน สารนี้มีฤทธิ์คลายปวดและทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย นอกจากนั้นการพักผ่อนให้เพียงพอ และฝึกสมาธิก็มีส่วนลดความเครียดลงได้