กลากน้ำนม
กลากน้ำนม เป็นโรคที่มีลักษณะคล้ายๆ เกลื่อน คือ เห็นเป็นวงขาวหรือชมพูจางๆ เมื่อดูให้ดี หรือใช้แว่นขยายส่องดูด้วย จะเห็นมีขุยบางๆ ติดอยู่ มักเกิดที่ คอ ไหล่ และแขน บางครั้งอาจจะพบที่หลัง หน้าอก และขา ก็ได้ โดยมากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง เป็นผู้สังเกตเห็นว่า เกิดกับเด็ก ในระยะกินนม เห็นเป็นวงกลมหรือวงรี เนื่องจากพบในเด็กที่อยู่ในระยะกินนม ลักษณะเหมือนน้ำนมแห้งติดอยู่ที่แก้ม จึงเรียกว่า กลากน้ำนม ซึ่งโดยความจริง โรคนี้มีลักษณะไม่เหมือนกลาก แต่เหมือนเกลื้อนหรือโรคด่างขาวมากกว่า
ลักษณะโดยทั่วๆ ไป กลากน้ำนม จะเห็นเป็นวงรีๆ หรือวงกลมขนาดต่างๆ กัน ตั้งแต่ 0.5-2 ซ.ม. มีสีขาวหรือสีชมพูจางๆ และดังกล่าวแล้ว มักเกิดขึ้นที่หน้า คอ ไหล่ หรือต้นแขน สีขาวนี้จะเห็นชัดตรงกลาง แล้วจางออกไปทางส่วนริม ขอบของวงจึงดูไม่ชัดเจน ผิดกับเกลื้อนซึ่งขอบวงเห็นชัด สำหรับขุยของกลากน้ำนม เป็นขุยบางๆ ถ้าใช้เล็บขูด แล้วใช้แว่นขยายส่องดูด้วย จึงจะเห็นได้ดี ในคนผิวคล้ำ วงขาวของกลากน้ำนมจะเห็นชัดมากกว่าในคนผิวขาว
กลากน้ำนม มักเกิดขึ้นในเด็กเล็ก คือ ระยะ 3 ขวบ จนถึงวัยเป็นหนุ่มสาวเต็มที่ คือ 16-17 ปี และเกิดได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ไม่ใช่จะเกิดเฉพาะคนในอายุระหว่างนี้เท่านั้น เด็กที่อายุน้อยกว่านี้ หรือคนโตที่อายุมากกว่านี้ก็เป็นกลากน้ำนมได้ ในเด็กเล็กๆ ที่เป็นโรคนี้ แม่หรือผู้ปกครอง จะพามาหาหมอแล้วบอกว่า ลูกเป็นอะไรก็ไม่รู้ เป็นวงขาวๆ ที่แก้ม ถามอาการดูจะพบว่า ไม่มีอาการอะไรอย่างอื่นอีก ปู่ ย่า ตา ยาย มักจะบอกมาแล้วว่าเป็นกลากน้ำนม แต่พ่อแม่กลัวจะเป็นโรคอื่นและเมื่อหมอบอกว่า เป็นกลากน้ำนมและแนะนำวิธีการรักษาให้ แล้วผู้ปกครองก็จะสบายใจ โดยมากหมอจะให้ครีมไปทาและบอกว่า โรคนี้ไม่เป็นอันตรายอะไร ไม่ได้ติดมาจากใคร และไม่ติดต่อใคร ให้รักษาแต่ความสะอาด สำหรับสบู่ให้ใช้สบู่อ่อน เช่น สบู่น้ำ หรือสบู่เด็ก หมอมักจะบอกด้วยว่า โรคนี้เป็นๆ หายๆ ได้ ไม่ควรกังวลใจให้มากนัก
ส่วนใหญ่ผู้ปกครองเด็กมักจะพาเด็กกลับมาเป็นหนที่สอง บอกว่าไม่เห็นหายสักที หรือหายแล้วก็เป็นใหม่ ทั้งๆ ที่ทำตามคุณหมอสั่ง และเปลี่ยนนมแล้วตั้งหลายชนิด ที่เคยกินนมแม่ ก็เปลี่ยนมากินนมผงแล้ว ถึงคราวนี้ ก็ต้องอธิบายซ้ำอีกหน่อยว่า โรคนี้เป็นๆ หายๆ ได้ และไม่ได้เกิดจากน้ำนม แต่เกิดจากสาเหตุหลายๆ อย่าง พ่อแม่เด็กก็จะถามว่า ถ้าเช่นนั้นโรคนี้เกิดจากอะไร และขอยาแรงกว่าเก่าได้ไหม คราวนี้คุณหมอเห็นจะต้องอธิบายนานหน่อยเพราะ สาเหตุที่ทำให้เกิดกลากน้ำนม มีหลายชนิดทั้งภายนอกร่างกาย และภายในร่างกาย ซึ่งไปทำให้เกิดผิดปกติขึ้นที่ผิวหนัง และสาเหตุจริงๆ ก็ยากที่จะรู้ได้ในทันที แต่คุณหมอก็จะอธิบายให้คนไข้เข้าใจ โดยบอกว่า ผิวหนังคนนั้นมี 2 ชั้น คือ หนังกำพร้า ซึ่งอยู่ส่วนบนและหนังแท้ ซึ่งอยู่ส่วนล่าง
สำหรับหนังกำพร้าประกอบด้วยเซลล์เล็กๆ อีกหลายชั้น เรียกว่า เซลล์ของผิวหนังและที่ชั้นล่างสุด มีเซลล์อีกชั้นหนึ่ง สำหรับสร้างเม็ดสี ทำให้คนมีสีของผิวหนังต่างๆ เมื่อสาเหตุใดๆ ก็ตาม ซึ่งจะทำให้เกิดโรคกลากน้ำนมมาถูกผิวหนังส่วนนั้นเข้า เซลล์ของหนังกำพร้าส่วนนั้นก็จะเกิดมีลักษณะผิดปกติ รวมทั้งมีการผิดปกติของเม็ดสี ด้วยจึงเกิดเป็นด่างขาวๆ และมีขุยบางๆติดอยู่ที่ผิว เรียกว่า กลากน้ำนม สำหรับผิวหนังส่วนที่แข็งแรงกว่าและต่อต้านได้ ก็จะไม่เกิดการผิดปกติ จึงมีลักษณะเหมือนเดิม และด้วยเหตุนี้ โรคกลากน้ำนมจึงดูเป็นๆ หายๆ คือ เมื่อผิวหนังเกิดความต้านทานขึ้นได้แล้ว ก็จะไม่เป็นอีก เด็กบางคนจึงเป็นอยู่เพียงครั้งสองครั้งแล้วก็หายไป บางคนเป็นๆ หายๆ อยู่จนโต และบางคนเป็นเมื่อโตแล้ว ทั้งนี้เพราะผิวหนังเพิ่งจะปฏิกิริยากับสาเหตุ หรือสิ่งกระตุ้นในระยะนั้น
สำหรับยาแพงๆ ที่จะให้ทาให้หายเร็วๆ หรือหายขาด ต้องบอกเลยว่า ไม่มี ปกติยาที่ใช้ทา อาจใช้ยาพวกสเตอรอยด์ เช่น เพร็ดนิโซโลนครีม หรือ เบตาเมทาโซนครีม ขององค์การเภสัชกรรมทา แต่ก็ให้ผลไม่แน่นอนนัก หมอบางท่านเอายาพวกนี้ผสมกับโคล์มครีม อีกหนึ่งเท่า เพื่อให้ยาจางลง บางคนก็แนะนำแต่ให้รักษาความสะอาด ให้ใช้สบู่อ่อน เช่น สบู่น้ำ หรือสบู่เด็ก แล้วให้แต่โคล์มครีมทา การรักษาโรคนี้ให้ได้ผล จึงขึ้นอยู่กับคำอธิบายของผู้รักษา ให้พ่อแม่ของเด็กหรือคนป่วยเข้าใจ สบายใจและเชื่อถือ
สำหรับครีมที่ใช้ ควรจะเป็นครีมธรรมดาที่ไม่มีกลิ่นหอม เพราะผิวหนังของคนไข้บางคนอาจจะแพ้น้ำหอมได้
ที่บอกว่าไม่ควรให้สเตอรอยด์บ่อย หรือใช้ครีมสเตอรอยด์ ที่แรงๆ ก็เพราะว่า โรคนี้มักจะเป็นๆ หายๆ และยาพวกสเตอรอยด์ หากใช้มากๆ หรือบ่อยๆ ก็มีอาการผิดปกติขึ้นมาได้ และอาการผิดปกตินี้ มีหลายอย่างเสียด้วย เช่น เมื่อใช้ทากลากน้ำนมที่หน้าบ่อยๆ ก็อาจทำให้เกิดผื่นแดงที่แก้ม เรีย เพอริโอราล เดอร์มาไทติส ได้ คือ เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง เคยมีคนไข้ที่เพิ่งแตกเนื้อสาว เอายาสเตอรอยด์ทาที่ต้นขา ทาได้ไม่นานนัก ขนขึ้นมากผิดปกติ ตรงส่วนนั้น ขาดความสวยงามไป ต้องอธิบายและให้การรักษาใหม่
ในเด็กโตอายุ 6-7 ขวบขึ้นไป ที่เป็นกลากน้ำนม พ่อแม่หรือผู้ปกครองจะพามาหาหมอ เพราะเห็นผิวหนังเป็นวงด่างขาวๆ ดูไม่ค่อยสวย พอหมอบอกว่า เป็นกลากน้ำนมมักจะทำหน้าไม่เชื่อ และมักจะแย้งกับหมอว่า ลูกดิฉันไม่ได้กินนมแล้วนะคะ นมสด นมวัว นมกระป๋อง เขาฆ่าเชื้อหมดแล้วก็เป็นได้หรือ ซึ่งก็ต้องอธิบายกันนานหน่อย ว่าที่เขาเรียก กลากน้ำนม เพราะมันวงขาวๆ เหมือนเอานมมาแต้มไว้ แต่สาเหตุมีหลายอย่าง และโรคนี้เกิดได้ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ เป็นๆ หายๆ ต้องอธิบายให้เข้าใจดี มิฉะนั้นนอกจากจะขาดคนไข้แล้ว บางทีคนไข้ก็หันไปใช้ยาที่ขายตามตลาด ทาไปทามา หน้าก็เป็นโรคอื่นได้เหมือนกัน บางคนเกิดหนวดเหมือนผู้ชาย
สำหรับพวกที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวที่เป็นกลากน้ำนม มักจะมาหาหมอด้วยตัวเอง เพราะรักสวยรักงาม ในสมัยก่อน เด็กวัยรุ่น ซึ่งเป็นโรคนี้ที่แก้ม หมอโบราณบางคนเรียกว่า โรคฝากรัก คือ สมัยนั้น คนที่เป็นพี่จะต้องเลี้ยงน้อง อุ้มกระเตงไปจูบน้องบ้าง น้องจูบแก้มพี่บ้าง เกิดเป็นวงขาวขึ้น ก็เลยว่าเป็นเพราะน้ำมูกน้ำลายของน้องมาถูกเข้า และน้ำมูกมีเชื้อแบคทีเรีย จึงทำให้เกิดรอยขาวขึ้นมา
การรักษา สำหรับบุคคลวัยนี้ก็เหมือนกับที่อธิบายมาแล้ว ไม่ได้ผิดกันเลย ที่สำคัญคือ วัยหนุ่มสาวอยู่ในระยะใจร้อน บางทีเพื่อนล้อเล่น ทนไม่ไหว ก็ซื้อยาประเภทแสบร้อน หรือขี้ผึ้งเบอร์ต่างๆ มาทา ครั้นแล้วหน้าก็จะไหม้เกรียม หรือหนังแห้งเป็นผื่นดำ มาหาหมอเพราะโรคใหม่ คือ โรคของพิษยา
มีลักษณะอีกประการของกลากน้ำนม ที่เหมือนเกลื้อน คือ โรคนี้ไม่มีอาการคัน ยกเว้น แต่บางคน อาจจะคันได้บ้าง อีกประการหนึ่ง เมื่อรักษาแล้ว ขุยบางๆ นั้นจะหายไป แต่รอยขาวอาจจะเหลือ อยู่บนผิวหนังได้ อีกเป็นเวลานาน
อาจจะมีผู้อยากรู้ว่ากลากน้ำนม เกิดจากอะไรกันแน่ ต้องขอบอกว่าสาเหตุมีหลายอย่าง และยังไม่แน่นอน ที่รู้ๆ กันอยู่ กลากน้ำนมจะเกิดมากขึ้น เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ เช่น ในหน้าร้อน และเมื่อตากแดด ตากลม บางคนบอกว่าเกิดเพราะเชื้อที่เกิดออกมาพร้อมกับมูก หรือน้ำใสๆ ที่ออกมาทางจมูก ภาวะขาดอาหาร การผิดอาหาร สบู่ที่มีด่างมากและน้ำเหลืองเสียทำให้เกิดกลากน้ำนมได้เช่นกัน โดยสาเหตุเหล่านี้ จะไปทำให้เกิดการผิดปกติของเซลล์บนหนังกำพร้าดังกล่าวมาแล้ว ในขั้นแรกจะเกิดเป็นจุดแดงเล็กๆ ก่อน แล้วจุดแดงนี้ จะแผ่เป็นวงแดงจ่างๆ ขนาด 0.5-2 ซ.ม. ต่อมาก็หายไป เกิดเป็นแผ่นหรือวงขาว มีขุยบางๆ ติดอยู่ ระยะนี้เป็นระยะที่คนไข้หรือผู้ปกครอง สังเกตเห็นและมาหาหมอ
ได้บอกไว้ข้างต้นว่า โรคนี้อาจจะเป็นเหมือนเกลื้อนได้ แต่ความแตกต่างก็มีอยู่หลายอย่าง เช่น เกลื้อนเกิดจากเชื้อรา และเกิดมากที่หลัง คอ และหน้าอก แต่กลากน้ำนมเกิดจาก สาเหตุหลายอย่าง และพบมากที่บริเวณใบหน้า หรือไหล่ เกลื้อนเกิดมากในคนหนุ่มสาว คนมีเหงื่อมาก มีลักษณะเป็นวงสีขาว สีน้ำตาล หรือแดง มีขอบเขตชัดเจน แต่กลากน้ำนมเกิดในเด็ก จนถึงวัยหนุ่มสาว เป็นวงสีขาวและขอบขาวดูไม่ชัด สำหรับการรักษาเกลื้อนต้องรักษาด้วย ยาฆ่าเชื้อรา ไม่ใช่สเตอรอยด์ แต่กลากน้ำนมจะใช้ยาสเตอรอยด์ชนิดอ่อนๆ ทาก็ได้
- อ่าน 66,694 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้