เมื่อเอ่ยถึงปู ใครๆก็ร้องอ๋อ! เพราะเนื้อปูนั้นมีรสชาติที่อร่อย ใครๆก็อยากกิน โดยเฉพาะปูอบวุ้นเส้น พูดแล้วชวนให้น้ำลายไหล คนไทยเรารู้จักกินปูมาเป็นเวลาช้านาน (ไม่มีการบันทึกเอาไว้) แต่เราจะได้เห็นจากคำพูดที่ว่า “รีดเลือดปู” ไงละ
โดยธรรมชาติ ปูเป็นสัตว์ที่ชอบต่อสู้กันเอง ปูจะต่อสู้กันจนขาหัก แต่ดูเหมือนว่าแม้ขาจะหัก ปูก็ยังไม่วิตกกังวลแต่อย่างไร (มนุษย์คิดแทนปูเอง)
ปูมีนิสัยที่แปลก ปูที่เจริญเติบโตในน้ำจืด เวลาขยายพันธุ์จะไปวางไข่ในทะเล พอถึงหน้าผสมพันธุ์ก็จะไปฮันนีมูนและวางไข่ในทะเล
ปูมีประมาณ 300 ชนิด ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในทะเล มีอยู่ประมาณ 20 ชนิดที่อยู่ในน้ำจืด ในชั่วชีวิตหนึ่งแม่ปูจะออกไข่เพียงครั้งเดียว ไข่ที่ออกจะมีหลายหมื่นใบ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Eriocheir Sinensis H. Miline Edwards
สรรพคุณ
ปูมีคุณสมบัติเย็น รสเค็ม สรรพคุณแก้ช้ำใน แก้หิด เกลื้อน ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
สารเคมีที่พบ
ส่วนที่กินได้ใน 100 กรัม มีน้ำ 80 กรัม โปรตีน 14 กรัม ไขมัน 2.6 กรัม คาร์โบไฮเดรต 0.7 กรัม ash 2.7 กรัม แคลเซียม 141 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 191 มิลลิกรัม เหล็ก 0.8 มิลลิกรัม วิตามินเอ 230 หน่วยสากล วิตามินบี 0.01 มิลลิกรัม วิตามินบีสอง 0.51 มิลลิกรัม กรดนิโคตินิก 2.1 มิลลิกรัม โคเลสเตอรอลจำนวนเล็กน้อย (0.05%)
เนื้อปูมี free amino acid 10 กว่าชนิด ที่สำคัญ ได้แก่ กรดกลูตามิก Glycine (aminoacetic acid), Proline, Histidine, Arginine
Free amino acid ในปูจะเปลี่ยนแปลงเมื่อปูย้ายที่อยู่จากน้ำจืดไปยังน้ำเค็ม หรือจากน้ำเค็มมายังน้ำจืด เช่น หลังจากปูย้ายที่อยู่จากน้ำเค็มไปยังน้ำจืด กรดอะมิโนในปูจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด
กรดอะมิโนที่เปลี่ยนแปลงมากอย่างเห็นได้ชัด ได้แก่ Glycine และ Proline ขณะเดียวกันแอมโมเนียจะถูกขับออกจากตัวปูมากกว่าปกติ
กระดองปูมีแคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium carbonate) ประมาณ 3 ใน 4 อีก 1 ใน 4 นั้นมี Chitin และโปรตีน อย่างละครึ่ง
ข้อควรระวัง
ผู้ที่เป็นหวัด หรือมีอาการท้องอืด แน่น มีแก๊สในกระเพาะอาหาร อาหารไม่ย่อย และรู้สึกเย็นบริเวณท้อง ไม่ควรกินปู
ปูเป็นอาหารที่อร่อย ใครๆก็ชอบกิน แต่การกินปูนั้นมีข้อพึงระวัง 2 ประการ คือ
1. อาการเป็นพิษ มักเกิดขึ้นหลังจากกินปูไปแล้ว 14-24 ชั่วโมง มีอาการปวดท้อง หลังจากนั้นจะมีอาการท้องเสีย ถ่ายเป็นมูกเลือดคล้ายบิด
นอกจากนี้ยังมีอาการอาเจียนหรืออยากอาเจียน มีไข้ ถ้าเป็นมากจะขาดน้ำ ทำให้เกิดอาการเกร็งทั้งตัว ความดันโลหิตลดลง บางครั้งอาจถึงแก่ชีวิตได้ อาการแพ้มักเนื่องมาจากกินเนื้อปูที่ทำไม่สุกหรือไม่สด
2. พยาธิในปู ส่วนใหญ่มักมีในปูน้ำจืด เกิดจากการปรุงไม่สุก
ดังนั้นจึงควรเลือกกินปูที่สดและปรุงให้สุกแล้วจึงกิน
- อ่าน 9,134 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้