• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ยาเก็บหนอง-เพนนิซิลลิน วี

ยาเก็บหนอง-เพนนิซิลลิน วี

เพนนิซิลลิน วี (เรียกสั้น ๆ ว่า เพน.วี) เป็นยาปฏิชีวนะ หรือยาต้านจุลชีพชนิดหนึ่ง เช่นเดียวกับยาซัลฟา, เตตร้าซัยคลีน, คลอแรมเฟนิคอล, สเตร็ปโตมัยซิน, กาน่ามัยซิน เป็นต้น พูดกันตามภาชาวบ้านเราก็คือ “ยาเก็บหนอง” ซึ่งหมายถึง ยาที่ใช้ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ที่ทำให้เกิดการอักเสบหรือเกิดเป็นหนองผีแผลพุพองขึ้น บางคนอาจเรียกว่า “ยาแก้อักเสบ” ซึ่งความหมายไม่ค่อยตรงนัก เพราะการอักเสบนั้นเกิดจากสาเหตุได้หลายอย่าง เช่น หกล้ม ได้รับบาดเจ็บ, ถูกน้ำร้อนลวก, ถูกน้ำกรดสาด เป็นต้น แต่ก็พออนุโลมใช้คำนี้ในแง่ที่ว่า การอักเสบนั้นมีเชื้อโรคเป็นต้นเหตุหรือร่วมผสมโรงอยู่ด้วย

เพน.วี ใช้รักษาแผลอักเสบ, ฝี, แผลเปื่อย, แผลพุพอง, กุ้งยิง, ตาอักเสบ, หูอักเสบ, ต่อมทอนซิลอักเสบ, ไซนัส (โพรงจมูก) อักเสบ, หลอดลมอักเสบ, ปอดบวม, ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ, มดลูกอักเสบ, รวมทั้งไข้หวัดที่มีน้ำมูกข้นเป็นสีเหลืองหรือเขียว
มีทั้งชนิดเป็นเม็ด (สีแดงหรือสีเขียว) และชนิดน้ำเชื่อม ซึ่งทำเป็นผงแห้ง ค่อยผสมน้ำเวลาต้องการใช้ ยานี้ จะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว คนที่กินยานี้จะปัสสาวะมีกลิ่นของยาออกมาด้วย


⇒ ขนาดของยาที่ใช้

ในผู้ใหญ่ ให้กินยาเม็ดเพน.วี ครั้งละ 4 แสนหน่วย หรือยูนิต (ใช้อย่างเม็ดละ 4 แสนหน่วย ราคาเม็ดละ 0.75-1 บาท ครั้งละ 1 เม็ด หรืออย่างเม็ดละ 2 แสนหน่วย ราคาเม็ดละ 50 สตางค์ ครั้งละ 2 เม็ด ก็ได้) วันละ 4 ครั้ง กินก่อนอาหารครึ่งชั่วโมงและก่อนนอน หรือ กินทุก 6 ชั่วโมง ให้ได้วันละ 4 ครั้ง

ในเด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน ใช้ยา เพน.วี น้ำเชื่อม (ชนิดที่มีตัวยา 1 แสน หน่วย ใน 1 ช้อนชา ราคาขวดละ 8 บาท) ครั้งละครึ่งช้อนชา ทุก 6 ชั่วโมง

เด็กอายุ 6 เดือน-3 ปี ใช้ยาเพน.วี น้ำเชื่อม(ชนิด 1 แสนหน่วย) ครั้งละ 1 ช้อนชา ทุก 6 ชั่วโมง

เด็กอายุ 3-7 ปี ใช้ยาเพน.วี น้ำเชื่อม (ชนิด 2 แสนหน่วย ขวดละ 10 บาท) ครั้งละ 1 ช้อนชา หรืออย่างเม็ด (ชนิด 2 แสนหน่วย) ครั้งละ 1 เม็ด ทุก 6 ชั่วโมง

เด็กอายุ 7-12 ปี ใช้ยาเพน.วี (ขนาด 4 แสนหน่วย) ครั้งละ 1 เม็ด ทุก 6 ชั่วโมง

เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ใช้ขนาดเท่าของผู้ใหญ่

ยานี้ควรกินก่อนอาหารสัก 1 ชั่วโมง จะช่วยให้ลำไส้ดูดซึมยาเข้าร่างกายได้มากกว่ากินหลังอาหาร ใครที่ไม่ได้กินข้าว ก็ต้องกินยาให้ได้ครบวันละ 3-4 เวลา ตามเกณฑ์ดังกล่าว
ควรกินติดต่อกันทุกวัน เป็นเวลา 7-10 วัน
คนที่ชอบแพ้อะไรง่าย ๆ หรือเป็นหวัดจามทั้งปี แพ้อากาศ แพ้ฝุ่น เป็นลมพิษ ผื่นคันหรือโรคหอบหืดบ่อย ๆ ระวังอาจแพ้ยานี้ได้

ใครที่เคยแพ้ยานี้
กินแล้วเกิดมีอาการลมพิษ ผื่นคัน หนังตาบวมคัน หายใจหอบแน่น ให้หยุดกินยานี้ และห้ามใช้ยาที่จัดอยู่ในกลุ่มเพนนิซิลลินทั้งหมด (เช่น แอมพิซิลลิน, ยาฉีดโปรเคนเพนนิซิลลิน-ซึ่งใช้รักษากามโรค, ยีดเพนสเตร็ป, เพนนาเดอร์ 633, เซโคลเพน, ไทรไพลเพน ฯลฯ) เวลาหาหมอก็ต้องคอยบอกหมอว่า เคยแพ้ยานี้ หากใช้ซ้ำจะแพ้ได้อีก โดยเฉพาะถ้าเป็นยาฉีด อาจแพ้ถึงตายได้

ผู้ใหญ่ที่แพ้ยานี้ ขอแนะนำให้ใช้ยาปฏิชีวนะตัวอื่นแทน เช่น อีริโธรมัยซิน แทน (ห้ามใช้ยาเตตร้าคลีนเป็นอันขาด เพราะจะทำให้ฟันเหลืองดำอย่างถาวรได้)
 

                   
                      ภาพต่อมทอนซิลอักเสบ

⇒ ตัวอย่างโรคที่รักษาด้วยเพน-วี

ต่อมทอนซิลอักเสบ
มีอาการไข้ตัวร้อน เจ็บคอ บางครั้งมีลูกหนูขึ้นที่ใต้คาง อ้าปากตรวจดูพบว่า ต่อมา ทอนซิลบวมแดงแสบเป็นหนอง
ให้นอนพักผ่อน, เช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำเย็น กินอาหารเหลวที่ย่อยง่าย, กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ (ผสมเกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำอุ่น 1 แก้ว) วันละ 2-3 ครั้ง ให้กินยาลดไข้ เช่น แอสไพริน หรือพาราเซตาม่อล และ ยาเพน.วี ขนาดตามอายุดังกล่าว
ดูแลเช่นนี้ 2-3 วัน ถ้ารู้สึกดีขึ้น ก็ควรกินเพน.วี ติดต่อกันจนครบ 10 วัน มิเช่นนั้น อาจกลายเป็นโรคไต หรือ ไข้รูห์มาติค (ดูเรื่อง “ไข้รูห์มาติค-เจ็บในคอ, ปวดในข้อ, หัวใจรั่วใน “หมอชาวบ้าน” ปีที่ 1 ฉบับที่ 2)

เป็นแผลหรือฝีที่เท้า บางครั้งไข่ตันบวมและปวด
ให้พักผ่อน ห้ามเดินมาก พยายามนอนยกเท้าสูง (โดยใช้หมอนรองเท้าไว้) กินยาแก้ปวดลดไข้ ถ้ามีอาการปวดหรือเป็นไข้ ชะล้างแผลด้วยน้ำด่างทับทิม (ด่างทับทิม ผสมน้ำอุ่นเป็นสีชมพู) และให้กินยา เพน.วี ขนาดตามอายุดังกล่าว เป็นเวลา 7-10 วัน

เด็กเป็นแผลพุพองตามตัว, ตามศีรษะ (ที่เรียกว่า ชันตุ)
ใช้ชะแผลด้วยน้ำด่างทับทิม กินยา เพน.วี น้ำเชื่อม ตามขนาดดังกล่าว 7-10 วัน


 

ข้อมูลสื่อ

13-003
นิตยสารหมอชาวบ้าน 13
พฤษภาคม 2523
แนะยา-แจงโรค
ประชารักษ์