พฤติกรรมทางเพศของมวลมนุษย์ชาติเป็นสิ่งที่น่าสนใจ น่ารับรู้เอาไว้เพื่อจะเป็นประโยชน์ในการดำรงชีวิตในปัจจุบัน ดูเร็กซ์โพลสำรวจพฤติกรรมดังกล่าวติดต่อกันมาทุกปี จนย่างเข้าปีที่ 6 และมีตัวเลขที่น่าสนใจที่ควรจะนำเสนอให้ได้รับทราบดังนี้
- แม้ว่าการระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะโรคเอดส์ยังคงระบาดกันอยู่อย่างกว้างขวาง แต่เชื่อไหมว่ามีเพียงร้อยละ 50 หรือครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่ห่วงใยกังวลในการติดโรค ส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งยังคงไม่สนใจ และมีพฤติกรรมทางเพศในรูปแบบเสี่ยงๆ เหมือนเดิม
- หนุ่มสาวในประเทศไทยใช้ถุงยางอนามัยในการคุมกำเนิดเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คือร้อยละ 43 ใช้ถุงยางอนามัย รองลงมาคือการกินยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดเม็ดรวมร้อยละ 23 ซึ่งนับว่าต่างจากปีก่อนๆ ที่คุยโดยยาคุมมากกว่าถุงยาง นับเป็นนิมิตหมายอันดีที่นอกจากจะป้องกันการตั้งครรภ์แล้ว ยังสามารถป้องกันการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย
- อายุที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกก็เพิ่มขึ้นทั่วโลก รวมทั้งหนุ่มสาวไทย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนๆ แสดงว่าการสอนเพศศึกษาในโรงเรียนและหน่วยงานต่างๆ เริ่มได้ผลเป็นรูปธรรมขึ้นมาบ้างแล้ว
- เด็กๆ วัยรุ่นยุคใหม่อยากเรียนเพศศึกษาจากโรงเรียน รองลงมาเป็นการเรียนรู้จากมารดา โดยเฉพาะลูกสาว การรับรู้ความรู้ด้านเพศศึกษามาจากเพื่อนสนิท และการศึกษาด้วยตนเองจากหนังสือ หรือแหล่งข้อมูลอื่นยังคงเป็นความต้องการอยู่ น่าดีใจที่ความรู้ด้านเพศที่ได้จากคู่นอนลดลงไปอย่างมาก ซึ่งแสดงถึงผลสำเร็จของการให้ความรู้ด้านเพศศึกษาแก่ทุกคนในสังคมโลก
- น่าดีใจที่คนยุคใหม่เริ่มให้ความสนใจในการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยโดยการซื่อสัตย์ต่อคนรัก ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงในการมีเพศสัมพันธ์นอกสมรส โดย 6 คนใน 10 คน ตอบว่า วิธีการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยคือ มีคู่นอนคนเดียว 1 คนใน 4 คน ตอบว่าใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นคู่นอนประจำ หรือที่พบกันใหม่ และ 1 คนใน 10 ตอบว่า ดีที่สุด ก็คือการไม่มีเซ็กซ์ หรือ NO SEX IS SAFE SEX นั่นเอง
- และเชื่อไหมว่า ไลฟ์สไตล์ที่มีคนชื่นชอบไม่ใช่เซ็กซ์ แต่เป็นการไปท่องเที่ยวกับเพื่อนและช็อปปิ้ง แต่สำหรับคนไทยแล้วชอบนอนหลับพักผ่อนและดูโทรทัศน์มากกว่ามีเซ็กซ์
- อ่าน 2,719 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้