• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อลดไขมันไม่ได้

เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อลดไขมันไม่ได้

เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อที่กล่าวถึงนี้ คือเครื่องกำเนิดกระแสไฟฟ้าตรงหรือกระแสไฟฟ้าสลับ อาจใช้แหล่งไฟฟ้าตามบ้าน 22o โวลต์ หรือจากถ่านไฟฉาย มีการโฆษณาชวนเชื่อมากมายว่าเครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ สามารถลดไขมันเฉพาะที่ได้ ทำให้หน้าท้องราบเรียบ ไม่มีพุง เอวบางเล็ก หรือถ้ากระตุ้นที่บริเวณสะโพก ต้นขา จะทำให้ขามีรูปร่างเรียวเล็กเยี่ยงนางงามจักรวาลได้ ทั้งยังลดต้นแขนได้ สรรพคุณทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนี้ล้วนไม่เป็นความจริง เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ผลจากการกระตุ้นด้วยไฟฟ้า

ก่อนอื่น คงต้องมาเข้าใจว่าเครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้าคืออะไร เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อเกิดจากการคิดค้นของนายกัลป์วานี ชาวอิตาเลียน เมื่อ 216 ปี ในอดีต โดยใช้กระแสไฟตรงกระตุ้นกล้ามเนื้อที่น่องของกบ ปรากฏว่าทำให้กล้ามเนื้อกบหดตัวได้ จึงมีความคิดว่าถ้าเอากระแสไฟฟ้ามากระตุ้นผู้ป่วยที่เกิดอาการอัมพาตของกล้ามเนื้อ จะช่วยกระตุ้นให้ฟื้นคือสู่สภาพเดิมได้

ต่อมามีการปรับปรุงเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าโดยสามารถควบคุมช่วงคลื่นที่จ่ายออกมาเป็นเศษหนึ่งส่วนพันหรือส่วนหมื่นของ 1วินาที และมีความถี่ต่างๆ เพื่อกระตุ้นเส้นประสาทที่มาเลี้ยงกล้ามเนื้อหรือกระตุ้นโดยตรงที่กล้ามเนื้อเมื่อเส้นประสาทขาดหายไปโดยผู้ถูกกระตุ้นไม่รู้สึกเจ็บปวดมาก

ปัจจุบันทางกายภาพบำบัด ใช้เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อมาช่วยลดอาการเจ็บปวด กระตุ้นกล้ามเนื้อที่ขาดเส้นประสาทมาเลี้ยงให้กล้ามเนื้อลีบช้าลง เพื่อรอคอยเส้นประสาทงอกมาเลี้ยงใหม่ หรือฝึกกล้ามเนื้อที่อ่อนแอร่วมกับการออกกำลังกายให้กลับใช้งานได้ตามปกติ หลังจากเข้าเฝือกเป็นเวลานาน หรือหลังผ่าตัด กระดูก ข้อต่อ แต่เมื่อผู้ป่วยสามารถออกกำลังกายด้วยตนเองได้แล้วจะหยุดการกระตุ้น ทั้งนี้เนื่องจากการกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยกระแสไฟฟ้าย่อมสู้การออกกำลังกายด้วยตนเองไม่ได้

ไม่เคยปรากฏในงานวิจัยว่าการกระตุ้นกล้ามเนื้อจะลดไขมันบริเวณที่กระตุ้นได้ ทั้งนี้จะเป็นการเข้าใจผิดอย่างจงใจ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่า ถ้าทำให้กล้ามเนื้อหดตัวที่บริเวณของร่างกายส่วนใด จะเปรียบเสมือนการออกกำลังกายที่ส่วนนั้น ไขมันจะอยู่ไม่ได้และจะถูกละลายไป ความจริงการที่ไขมันไปสะสมไว้ที่ส่วนใดของร่างกายนั้น มักจะเกิดจากความต้องการของเนื้อเยื่อหรืออวัยวะส่วนนั้น ตัวอย่างเช่น หัวใจจะหดตัว คลายตัว วันละ 24 ชั่วโมง ตลอดอายุขัย แต่ยังมีไขมันไปพอกรอบหัวใจ ทั้งนี้เพราะหัวใจต้องการกรดไขมันมาสลายเป็นพลังงาน

กล้ามเนื้อในร่างกายจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือชนิดหดตัวช้า และหดตัวเร็ว กล้ามเนื้อที่หดตัว เช่น กล้ามเนื้อหน้าท้อง จะต้องการกรดไขมันเป็นพลังงานมาก จึงมีไขมันไปอยู่บริเวณนั้นมากกว่ากล้ามเนื้อที่หดตัวเร็ว การออกกำลังกายกล้ามเนื้อเหล่านี้บ่อยๆ ทำให้มีการเผาผลาญไขมันมาก ไขมันจึงมีปริมาณลดลงจากบริเวณนั้น

การกระตุ้นด้วยไฟฟ้าเพียงแต่ทำให้กล้ามเนื้อหดตัวทันทีในชั่วขณะหนึ่ง การเผาผลาญไขมันเกือบจะไม่เกิดขึ้นจึงไม่สามารถลดไขมันได้ ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ไขมันส่วนมากจะสะสมอยู่ที่ลำไส้ภายในช่องท้อง  ซึ่งยังไม่สามารถลดได้เลยด้วยกระบวนการกระตุ้นไฟฟ้า การกินอาหารที่จำกัดไขมันต่างหากที่ช่วยลดไขมันลงได้ และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็ช่วยเผาผลาญไขมันได้ระดับหนึ่ง

นอกจากการกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยกระแสไฟฟ้าไม่สามารถลดไขมันแล้ว อันตรายหรืออาการแทรกซ้อนที่เกิดจากเครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อยังมีอีกมากมาย

เนื่องจากใต้ขั้วกระตุ้นไฟฟ้าจะเกิดภาวะกรดและด่างตลอดเวลาที่กระแสไฟฟ้าผ่านเข้าไปในร่างกาย อาการแพ้หรือเกิดผื่นคันตามผิวหนังจึงพบได้บ่อย อาการติดเชื้อจากความสกปรกของขั้วไฟฟ้า เพราะใช้กับหลายคนหรือใช้หลายครั้ง แต่ไม่ได้ทำความสะอาดหรือทำความสะอาดไม่ได้

เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อที่ไม่ได้มาตรฐานจะมีกระแสไฟฟ้ารั่วได้ง่าย เนื่องจากไม่ได้ใช้สายดิน และไม่ได้ใช้หม้อแปลงไฟฟ้าแบบพันด้วยขดลวด 2 ขด ซึ่งต้องใช้ในเครื่องมือแพทย์ทุกชนิด ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรได้ง่าย ผู้ที่เป็นโรคหัวใจหรือมีเครื่องกำเนิดคลื่นไฟฟ้าที่ติดอยู่ภายในร่างกาย จะเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ถ้าใช้เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ

ไม่ว่าจะใช้กระแสไฟฟ้าตามบ้านหรือจากถ่านไฟฉาย เนื่องจากผิวหนังมีความต้านทานสูงมากเป็นพันๆโอมห์ ดังนั้นแม้แต่เครื่องที่ใช้ถ่านไฟฉายขนาด 1.5 กระแสไฟฟ้าที่จ่ายออกมาจะสูงถึง 50-1oo โวลต์เป็นอย่างต่ำ จึงจะเพียงพอที่กระตุ้นกล้ามเนื้อได้ ดังนั้นเครื่องที่ใช้ถ่านไฟฉายย่อมเกิดอันตรายได้ไม่น้อยไปกว่าเครื่องใช้กระแสไฟฟ้าตามบ้าน

สิ่งที่สำคัญคือ เนื่องจากเครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อเป็นเครื่องมือกายภาพบำบัดตามกฎหมาย จึงต้องอาศัยนักกายภาพบำบัดเท่านั้นในการควบคุมเครื่องตามข้อบ่งชี้ของโรค หรืออาการตามที่ได้ศึกษาอบรมมาเพื่อความปลอดภัยของผู้ถูกกระตุ้น การที่ร้านเสริมสวยสถานส่งเสริมสุขภาพต่างๆใช้เครื่องมือเหล่านี้โดยผู้ใช้มิใช่นักกายภาพบำบัด จึงกระทำผิดต่อกฎหมายด้วย

ตราบใดที่สุขภาพซื้อขายกันไม่ได้ ตราบนั้นการเสียเงินทองเพื่อซื้อเครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ หรือให้ผู้อื่นกระตุ้นกล้ามเนื้อให้ย่อมเสียทั้งเงินทอง และอาจบั่นทอนสุขภาพได้

 

                                                              ***************************
 

ข้อมูลสื่อ

205-008
นิตยสารหมอชาวบ้าน 205
พฤษภาคม 2539
เรื่องน่ารู้
รศ.ประโยชน์ บุญสินสุข