นพ.ประวิตร พิศาลบุตร
โรคตุ่มขนคุด
ฉบับนี้มีผู้อ่านถามเรื่องโรคตุ่มขนคุดที่เกิดกับตัวเองดังนี้
ถาม
"ทำไมขาของดิฉันถึงมีแต่รูขุมขนที่มีขนาดใหญ่ มองเห็นได้แต่ไกลเป็นรอยจุดดำๆ รูขุมขนนี้ก็มีขนาดใหญ่และดำ ดิฉันไม่กล้าใส่กระโปรงสั้น กางเกงสั้น ที่ทำให้เห็นขาแข้งเลยเพราะอาย อยากทราบว่ามัน เกิดจากอะไร และพอจะหาทางแก้ไขได้หรือเปล่าคะ"
ลีลาวดี/กรุงเทพ ฯ
สำหรับตุ่มขนขนาดใหญ่เป็นจุดดำๆ นี้ เข้าใจว่าเป็นโรคผิวหนังที่เรียกว่า โรคตุ่มขนคุด ทางการแพทย์เรียกว่า Keratosis pilaris จัดว่าพบได้บ่อย จนอาจถือว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม เป็นที่สังเกตว่ามักพบตุ่มเล็กๆ นี้ได้ บ่อยในผู้ที่มีประวัติโรคภูมิแพ้ผิวหนัง ลักษณะเป็นตุ่มขนาด ๑-๒ มิลลิเมตรตามรูขุมขน หากใช้มือลูบดูจะสะดุดตามรูขุมขนเหมือนสัมผัสเม็ดทราย ภาวะแบบนี้พบได้ในทุกอายุ และพบบ่อยในเด็กเช่นกัน แต่ช่วงอายุที่พบมากที่สุดคือวัยรุ่น
ตำแหน่งที่พบตุ่มเล็กๆ นี้มากที่สุดก็คือตามต้นแขน ด้านหลังและด้านข้าง บางคนก็มีตุ่มเล็กๆ ที่ต้นขาด้วย แท้จริงแล้วผิวหนังทุกส่วน ยกเว้นฝ่ามือ ฝ่าเท้า จะมีตุ่มนี้ได้ เพราะบางคนเป็นที่หน้าทำให้ดูคล้ายเป็นสิว แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าตุ่มขนคุดนี้จะมีขนาดเท่าๆ กัน เป็นเม็ดยิบๆ และมักมีผิวแห้งด้วย บางคนมีตุ่มทั่วตัวเหมือนเป็นผด โดยทั่วไปแล้วตุ่มเล็กๆ เหล่านี้ไม่ก่อให้เกิดอาการหรือมีอันตรายใดๆ แต่บางครั้งอาจแดง อักเสบ หรือเป็นหนองได้ พบบ่อยที่ต้นขา
พบว่าหากผู้ที่มีตุ่มนี้กินยาที่มีส่วนผสมของสเตีย-รอยด์ ตุ่มจะเพิ่มมากขึ้น และมีการกระจายไปหลายตำแหน่งของร่างกาย และยังทำให้เกิดเป็นหนองด้วย สำหรับผู้ที่มีตุ่มเล็กๆ เหล่านี้หากไม่มีอาการอะไรและเป็นไม่มากก็ไม่จำเป็นต้องรักษา หรืออาจใช้เพียงแค่ครีมบำรุงผิว (lubrication) ทาบริเวณที่เป็นก็ได้ อาจใช้ยาทาพวกยูเรีย ครีมสเตียรอยด์อย่างอ่อน ยาทากรดวิตามินเอ ลอกผิวด้วยกรดผลไม้ (AHA) ทำไอออนโตด้วยกรดวิตามินเอ ขัดผิวด้วยเกล็ดอัญมณี (Crystal peeling) เหล่านี้อาจทำให้ตุ่มขนคุดจางลง แลดูผิวเรียบขึ้น แต่ผลที่ได้ก็มักเป็นชั่วคราวเพราะลักษณะตุ่มขนคุดมักเป็นลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล
- อ่าน 80,775 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้