• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ยืดอกพกถุง

นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์
ยืดอกพกถุง

เพศสัมพันธ์...จุดเริ่มต้นของความผูกพัน  แต่จะดีกว่าหากจุดเริ่มต้นนั้น...มีความปลอดภัย
ฝ่ายชาย : "ที่รักอีกไม่นานเราก็จะได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ ตอนนี้เรือนหอของเราใกล้จะเสร็จแล้ว แค่คิดถึง วันนั้นก็มีความสุขมากที่สุดในโลก รอคอยเวลาที่จะอยู่กับคุณแทบไม่ได้ คืนนี้คุณสวยเหลือเกินเป็นของผมได้ไหมคนดี"

ฝ่ายหญิง : "ทำไมไม่อยากเป็นของคุณ ใจน่ะเป็น ของคุณตั้งนานแล้ว ร่างกายก็พร้อมที่จะเป็นของคุณ  อยากมีความสุขกับคุณ แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวค่ะ เห็นคุณหมอทั้งหลายเขาออกมาพูดกันว่า ควรจะตรวจก่อนแต่ง  เพราะบางครั้งอาจจะมีโรคบางอย่างที่อาจจะติดต่อกันได้จากการมีเพศสัมพันธ์นะคะ"

ฝ่ายชาย : "โอเคครับ ผมก็อยากให้คุณสบายใจว่าผมไม่เคยมีโรคร้ายอะไร ผิดกับเรื่องเล่าที่ผมเคยได้ยินมาว่า ผู้ชายคนหนึ่งเคยมีความสัมพันธ์ทางเพศประเภทรักชั่วข้ามคืนกับสาวที่พบกันในผับแห่งหนึ่ง  แล้วปล่อยอารมณ์ให้เลยเถิดไปเนื่องจากไม่สามารถยับยั้งอารมณ์ไว้ได้ และปรากฏว่าหลังจากนั้นหลายเดือน เขาก็ได้มีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานกับคู่หมั้นของตนเอง  โดย ที่ไม่ได้สวมถุงยางอนามัย โดยที่ทั้งสองใช้วิธีคุมกำเนิดด้วยการหลั่งภายนอกทุกครั้ง ซึ่งก็ได้ผลดีที่สามารถป้องกันการท้องได้....แต่"

ฝ่ายหญิง : "แต่...แต่อะไรค่ะ  เกิดอะไรขึ้นระหว่างเขาและเธอ"

ฝ่ายชาย : "เรื่องเกิดขึ้นมาจากการที่คู่หมั้นจูงมือ เขาเข้าไปให้คุณหมอตรวจเลือดก่อนแต่งงาน  เพื่อความ สบายใจของทั้ง ๒ ฝ่าย แต่อนิจจาฟ้าดินช่างไม่เห็นใจในความรักของเขาและเธอ ผลการตรวจเลือดปรากฏว่า ทั้ง ๒ คนมีผลบวกต่อเชื้อเอชไอวี...ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเอดส์..."

ฝ่ายหญิง : "น่าสงสารจริงๆ เลยนะคะ ความจริง คำว่าตรวจก่อนแต่งนั้น คนทั่วไปอาจจะไม่เข้าใจความ หมายที่แท้จริงที่คุณหมอให้ไว้ก็ได้ น่าจะเปลี่ยนเป็นตรวจ ก่อนมีเพศสัมพันธ์น่าจะดีกว่า คนจะได้ระมัดระวังมากขึ้น ถ้าคุณทนไม่ไหวจริงๆ อยากจะมีอะไรกัน  แล้วเราก็น่าจะไปซื้อถุงยางอนามัยนะคะ เดี๋ยวนี้เขาว่าใครรู้จักใช้ถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์นั้นเป็นคนที่ทันสมัยมาก ในขณะที่ผู้ชายที่ไม่ใช้ถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์นั้น น่าจะเป็นผู้ชายที่ไม่ค่อยมีความรับผิดชอบนะคะ"

ฝายชาย : "ครับ...ผมเห็นด้วย  แต่ถึงแม้ปัจจุบันถุงยางอนามัยจะหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อก็ตาม  ผู้ชายที่จะซื้อทั้งหลายก็ไม่สะดวกใจ  เพราะคนขายที่เป็นผู้หญิงมักจะชอบมองด้วยสายตาแปลกๆ เหมือนกับกำลังทำอะไรผิดๆ  แทนที่จะมองเขาด้วยความชื่นชมว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษที่มีความรับผิดชอบเหมือนที่คุณพูด"

ฝ่ายหญิง : "ค่ะ...เป็นค่านิยมผิดๆ ในสังคมของเราที่ชอบมองว่าถุงยางอนามัยเป็นอุปกรณ์ในการป้องกัน การติดโรคของผู้ชายชอบสนุกทั้งหลาย แทนที่จะมองว่าเป็นวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่มีไว้คุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย"

ฝ่ายชาย : "ผมว่าเราคงจะต้องให้ความรู้ด้านเพศศึกษาแก่ประชาชนคนทั่วไปอีกนานกว่าจะเข้าใจว่า  แท้จริงแล้วเพศศึกษานั้นสอนให้คนเรามีความปลอดภัย  ในทุกเรื่องราวที่เกี่ยวกับเพศ รวมถึงการมีความสัมพันธ์ทางเพศที่ปลอดภัยด้วย"

ฝ่ายหญิง : "ใช่แล้วค่ะ...เคยดูรายการเพศศึกษาเห็นคุณหมอบอกด้วยว่า  นอกจากจะใช้เพื่อการ คุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แล้ว ถุงยางอนามัยยังทำให้เกิดสัมผัสรักที่ปลอดภัยด้วย     ถ้าผู้ชายสูบบุหรี่แล้วสารก่อมะเร็งที่มีอยู่ในบุหรี่นับพันชนิดจะหลั่งออกมาในน้ำอสุจิของผู้ชายไปตกค้างที่ปากมดลูกของผู้หญิง เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้หญิงเป็นมะเร็งปากมดลูกสูงมากขึ้น ถ้ามีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายที่สูบบุหรี่ แล้วเขาไม่ได้สวมถุงยางอนามัย"

ฝ่ายชาย : "ใช่แล้วครับ ผมก็เคยทราบมาแบบนั้น  แต่โชคดีนะครับที่ผมไม่ได้สูบบุหรี่ เพราะเดี๋ยวนี้ใครๆ    ก็รู้ว่า นอกจากบุหรี่ทำให้เกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศแล้ว บุหรี่ยังไม่ทำให้ตัวอสุจิเกิดการพิกลพิการขึ้นด้วย ทำให้โอกาสที่ภรรยาจะตั้งครรภ์ยาก หรือไม่ถ้าเกิดตั้งครรภ์ขึ้นทารกก็อาจจะพิการหรือแท้งง่าย และผมเคยได้ยินมาว่า บางครั้งผู้ชายที่ไม่ได้ขริบหนังหุ้มปลายและทำความสะอาดอวัยวะของเขาก่อนร่วมรักกันนั้น ขี้ไคลที่หมักหมมใต้หนังหุ้มปลายของเขาก็อาจจะตกลงไปในจุดซ่อนเร้นของผู้หญิง ทำให้เกิดอาการอักเสบจากเชื้อราได้ด้วย"

ฝ่ายหญิง : "แหมคุณนี่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับถุงยางอนามัยละเอียดดีจริงๆ ไปศึกษามาจากไหนหรือค่ะ  ทำเป็นผู้เชี่ยวชาญและช่ำชองเรื่องแบบนี้มาก่อนเลยนะคะ"

ฝ่ายชาย : "อย่าระแวงผมแบบนั้นซิครับ ผมก็หา ความรู้จากเว็บดีๆ และรายการดีๆ ที่ให้ความรู้ทางเพศศึกษาที่ถูกต้องบ้างไม่ได้หรือ ก็เพราะผมรักคุณอยากจะอยู่กับคุณอย่างมีความสุข"

ฝ่ายหญิง : "ถ้าอย่างนั้นรอต่อไปอีกนะคะคนดี  รอวันแต่งงานก็แล้วกัน  เพราะคุณก็คงอยากจะมีแบบเนื้อแนบเนื้อใช่ไหมคะ"

ข้อมูลสื่อ

342-005
นิตยสารหมอชาวบ้าน 342
กันยายน 2550
นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์