เรื่องเด่นจากปกเดือนนี้คือ ออกกำลังป้องกันสมองเสื่อม
ที่จริงการออกกำลังป้องกันความเสื่อมทุกชนิด ไม่ใช่เฉพาะสมอง เช่น ป้องกันหัวใจเสื่อม กระดูกเสื่อม ภูมิคุ้มกันเสื่อม ฯลฯ
การออกกำลังเป็นธรรมชาติของมนุษย์มานับด้วยแสนปี เพิ่งมาเมื่อไม่กี่ร้อยปีนี่เองที่มนุษย์เปลี่ยนแปลงมามีอาชีพทำงานเบา ทำให้ไม่ได้ออกกำลัง ทำให้เกิดความเสื่อมต่างๆ ตามมา
ถ้าออกกำลังกระดูกจะแข็งแรง ไม่เป็นโรคกระดูกพรุน กระดูกไม่หักง่าย ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่กลัวกระดูกพรุน แล้วไปกินฮอร์โมน กินแคลเซียม อะไรต่างๆ แสนลำบาก ออกกำลังก็ป้องกันได้
ถ้าออกกำลังหัวใจจะแข็งแรง ป้องกันการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจเสื่อม
ถ้าออกกำลังจะเปิดหลอดเลือดฝอย ให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น การไม่ออกกำลังหัวใจสูบฉีดเบา หลอดเลือดอุดตันได้ง่าย เหมือนแม่น้ำลำคลอง ถ้าน้ำไหลอ่อยก็ตื้นเขินตีบตันง่าย ถ้าน้ำไหลแรงก็เปิดทางเดินน้ำให้ไหลคล่อง
ถ้าออกกำลังจะทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติได้ดุล ระบบประสาทอัตโนมัติมี ๒ ระบบคือ ระบบเร่งกับระบบเบรก
ถ้าเร่งก็ทำให้ตื่นเต้น ถ้าเบรกก็ทำให้เซื่องซึม ลองสังเกตตัวเองดูถ้าตื่นเต้นไปออกกำลังเสีย ก็ทำให้สงบสบาย ถ้าเซื่องซึมไปออกกำลังเสียก็สดชื่นกระปรี้กระเปร่า ความพอดีทำให้รู้สึกสบาย
ถ้าออกกำลังจะทำให้หลั่ง "สารสุข" หรือเอ็นดอร์ฟินส์ออกมามากขึ้น การออกกำลังทำให้ร่างกายหลั่งเอ็นดอร์ฟินส์ออกมามากขึ้นทำให้มีความสุขไปทั้งเนื้อทั้งตัว
ถ้าออกกำลังทำให้ภูมิคุ้มกันดีขึ้น ป้องกันโรคติดเชื้อ และโรคมะเร็ง ถ้าเครียดภูมิคุ้มกันจะต่ำลง ทำให้เป็นโรคติดเชื้อ และมะเร็งง่ายขึ้น คนออกกำลังกายเป็นประจำจึงไม่ค่อยเป็นหวัดเจ็บคอ หรือโรคติดเชื้ออื่น และทำให้การเป็นมะเร็งลดน้อยลงด้วย
ฯลฯ
หมอชาวบ้านจึงรณรงค์เรื่องการออกกำลังมาตั้งแต่ต้น เพราะเป็นการสร้างสุขภาวะที่ราคาถูกที่สุด
- อ่าน 2,840 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้