เมื่อวันที่ ๒๗ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๕๑ ทางโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) ได้รับพระราชทานเนื้อเยื่อพันธุ์พืชต่างๆ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ขยายพันธุ์และเก็บรักษาพันธุ์โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อต่อไปตามศักยภาพ
เนื้อเยื่อพืชเหล่านี้เป็นพืชที่ได้จากการทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ทรงเปิดงานนิทรรศการเทิดพระเกียรติฯ ณ ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ในพืชหลายๆ ชนิดนั้นพบว่ามีพืชชนิดหนึ่งที่สามารถขยายพันธุ์ต่อได้ดีและสามารถออกดอกในสภาพเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อได้สม่ำเสมอคือ Exacum affine หรือ Persian Violet โดยที่ Exacum affine เป็นไม้ล้มลุก ซึ่งเป็นพืชท้องถิ่นของเกาะ Socotra อยู่ในหมู่เกาะ Yemen มหาสมุทรอินเดีย ใบมีสีเขียวเข้ม รูปไข่ ยาวไม่เกิน ๔ เซนติเมตร ความสูงในสภาพธรรมชาติประมาณ ๖๐ เซนติเมตร โดยทั่วไปจะออกดอกในช่วงหน้าร้อนและฤดูใบไม้ผลิ ดอกมีสีม่วงอมฟ้า รูปร่างของดอกเมื่อบานเต็มที่แล้วมีทรงคล้ายดาว มีเกสรตัวผู้สีเหลืองสามารถเห็นได้ชัดเจน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
ทาง อพ.สธ. จึงเห็นศักยภาพในการผลิตพืชชนิดนี้เพื่อเป็นไม้ดอกไม้ประดับที่สามารถออกดอกได้แม้อยู่ในสภาพเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อจึงได้จัดทำโครงการผลิตและจำหน่าย Exacum affine เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระชนมายุ ๕๕ พรรษา เป้าหมายในการจัดจำหน่าย คือ ๑๕๕,๕๕๕ ขวด ในราคาขวดละ ๑๕๕ บาท และนำรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ เพื่อเป็นทุนในการก่อตั้งมูลนิธิอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขณะนี้ทางโครงการ อพ.สธ. ได้เพาะเลี้ยงเพื่อขยายพันธุ์ที่ห้องปฏิบัติการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช สวนจิตรลดา กรุงเทพฯ และที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ คลองไผ่ ลำตะคอง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
ทาง อพ.สธ. จึงได้ขอพระราชทานชื่อ Exacum affine จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเรียกขานเป็นชื่อสามัญในภาษาไทย และทรงพระราชทานนามว่า "ม่วงเทพรัตน์" มาในวันที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒ ซึ่งต้นม่วงเทพรัตน์นั้นสามารถขยายพันธุ์โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อและออกดอกในขวดสวยงาม และเมื่อมีผู้ซื้อไป ผู้ซื้อสามารถนำออกไปปลูกในสภาพธรรมชาติเพื่อเป็นไม้ประดับต่อไป
- อ่าน 5,530 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้