• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ผักกาดขาว ท่านอาวุโสแห่งผัก


พอเอ่ยถึงผักกาดขาว น้อยคนที่จะไม่รู้จัก แม้แต่เด็กๆ ที่ไม่ค่อยชอบกินผัก ก็สามารถกินได้อย่างไม่ต้องฝืนใจนัก พูดถึงตรงนี้บางคนอาจจะหลับตานึกถึงต้มจืดร้อนๆ หอมกรุ่น มาลอยอยู่ตรงหน้าแล้วก็ได้

                                               

ผักกาดขาว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Brassica Chinensis L.

ประวัติโดยย่อของผักกาดขาว
ผักกาดขาว หรือที่ชาวจีน (แต้จิ๋ว) เรียกว่า “แปะฉ่าย” เป็นผักเก่าแก่ ที่ชาวจีนรู้จักนำมาประกอบอาหาร เป็นเวลาประมาณ 6 พันกว่าปีล่วงมาแล้ว จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ค้นพบ พบว่าในหลุมศพ ที่หมู่บ้านป้านพอ ในซีอาน ภายในหลุมศพนั้นมีเมล็ดผักกาดขาวอยู่ หลักฐานต่างๆ ภายในหลุ่มฝังศพสันนิษฐานว่าอยู่ในยุคหินใหม่ ซึ่งมีอายุ 6-7 พันปีล่วงมาแล้ว นอกจากนี้ ยังมีการบันทึกไว้ในหนังสือ ประวัติศาสตร์จีนหลายเล่ม

ผักกาดขาวเริ่มเป็นอาหารที่สำคัญอย่างหนึ่งของชาวจีนตั้งแต่สมัยฉิน (พ.ศ. 298-338) และมีการเรียกผักกาดขาวว่า แปะฉ่าย ในสมัยซ้ง (พ.ศ.1506-1822) ซึ่งเดิมเรียกว่า “สง”

หลักฐานทางประวัติศาสตร์ตั้งดังกล่าวข้างต้น เราพอจะเห็นถึงความเก่าแก่ของผักกาดขาว จนมีผู้ขนานนามว่า “ท่านอาวุโสแห่งผัก”

สารที่พบในผักกาดขาว
ในผักกาดขาวมีวิตามินเอ บี 1 บี 2 วิตามินซี วิตามินดี ธาตุเหล็ก แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส และกรดนิโคตินิค

ประโยชน์ของผักกาดขาวในทรรศนะจีน
ผักกาดขาวมีรสหวาน ไม่ร้อนไม่เย็น ช่วยระบายอุจจาระ ลดอาการอึดอัด (ร้อนรุ่มบริเวณอก) แก้ฤทธิ์สุราขับปัสสาวะ แก้ไอ

เนื่องจากในผักกาดขาวมีพวกเส้นใย (fiber) มาก เส้นใยพืชจะช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ใหญ่ ช่วยการย่อยอาหาร ป้องกันอุจจาระแข็งเนื่องจากเส้นใยพืชไม่จับกันแน่นและสามารถถนอมน้ำไว้ จึงทำให้ถ่ายอุจจาระเป็นปกติ การกินผักกาดขาวบ่อยๆ จึงสามารถช่วยป้องกันมะเร็งในลำไส้ได้อีกด้วย

1. ในผู้ป่วยที่ลำไส้อักเสบ
ให้คั้นน้ำจากต้นสัก 100 มล. (ประมาณ 1 แก้ว) ตั้งบนเตาไฟให้อุ่น กินก่อนอาหารวันละ 2 ครั้ง ผักกาดขาวมีวิตามินซีเป็นจำนวนมาก จะช่วยให้ลำไส้อักเสบดีขึ้น
2. หวัด ให้ใช้รากผักกาดขาวจำนวนมากพอประมาณ (ประมาณ 1 กำมือ) ต้มกับน้ำกิน
3. หวัดหรือหลอดลมอักเสบ ใช้ผักกาดขาว หอมใหญ่ และขิงสดต้ม รวมกัน กินน้ำ หรือจะทำเป็นน้ำแกงกินก็ได้
4. ท้องผูก ให้กินผักกาดขาวเป็นประจำ อาการท้องผูกก็จะหายไป
5. พิษจากการกินมันสำปะหลังดิบ ใช้ผักกาดขาวสด และหัวผักกาดขาวสดคั้นเอาน้ำมากิน
6. ผิวหนังอักเสบเนื่องจากการแพ้ ใช้ผักกาดขาวสุด ตำให้ละเอียด พอกบริเวณที่เป็น

ข้อควรระวัง

1. สำหรับผู้ที่ทางทฤษฎีแพทย์จีนเรียกว่ากระเพาะอาหารเย็น คือ มีอาการแน่นท้อง อาหารไม่ย่อย อาเจียน ไม่ควรกินมาก เพราะอาจจะทำให้อาเจียนมีน้ำลายเป็นฟอง
2. สำหรับผักกาดขาว ถ้าจะกินสดๆ ควรล้างให้สะอาดจริง ๆ เพราะจะทำให้ท้องเสียได้ถ้าล้างไม่สะอาดและมีเชื้อโรคอยู่
3. ไม่ควรกินผักกาดาขาวที่เน่าจะทำให้เป็นพิษได้ เพราะแบคทีเรียจะทำปฏิกิริยากับเกลือไนเตรดในผักกาดาขาวกลายเป็นเกลือไนตรัส เป็นผลทำให้เหล็กในฮีโมโกบิลที่ต่ำสูงขึ้น ทำให้เลือดขาดออกซิเจน และอาจตายได้ โดยปกติอาการเป็นพิษนี้จะแสดงหลังจากกินผักเน่าไป 15 นาที แต่ก็มีบางรายที่ใช้เวลา 2-3 ชม. แล้วจึงจะมีอาการเป็นพิษเกิดขึ้น อาการที่เกิดมี มึนหัวและปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว หมดสติ เป็นต้น

อนึ่ง ผักกาดขาวเน่า อย่านำไปเลี้ยงสัตว์ เช่น หมู เป็ด ไก่ เพราะอาจเป็นพิษได้

 

ข้อมูลสื่อ

59-010
นิตยสารหมอชาวบ้าน 59
มีนาคม 2527
อาหารสมุนไพร
วิทิต วัณนาวิบูล