• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

โรคพาร์กินสัน

โรคพาร์กินสัน

ถาม : วัณยา/สงขลา

ดิฉันได้อ่านบทความเรื่อง โรคพาร์กินสัน ในนิตยสารหมอชาวบ้านแล้ว อยากเรียนถามว่า

๑. คนเป็นโรคพาร์กินสัน แล้วต้องกินยากลุ่มเลโวโดพาไปนานๆ จะมีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง (อาจจะต้องกินตลอดชีวิต) จะรู้ได้อย่างไรว่าอาการ ปวดหลัง ปวดเอว เกิดจากข้อกระดูกเสื่อม หรือเกิดจากผลข้างเคียงของการกินยา

๒. อาการมือสั่นที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์รักษาได้ไหม และใช้ยาอะไร ถ้าเอายารักษาโรคพาร์กินสันมากินจะได้ไหม อาการสั่นจะเพิ่มมากขึ้นตามอายุหรือไม่

๓. คอพอกเป็นพิษทำให้มือสั่นเป็นแบบถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ด้วยหรือไม่ ควรรักษาอย่างไร
 

ตอบ : นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ

๑. ผลข้างเคียงของยากลุ่มเลโวโดพาที่อาจพบได้บ่อย ก็คือ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งจะพบในช่วงแรกๆ ของการใช้ยา ถ้ามีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ควรกินยาหลังอาหาร ยานี้อาจทำให้ความดันเลือดต่ำ ลุกขึ้นจะมีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลมได้ และอาจทำให้มีอาการใจสั่น (หัวใจเต้นผิดปกติได้) หลังจากใช้ยาไปนานๆ อาจทำให้แขน ขา มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ หากลดขนาดยาลงก็จะทุเลาได้ นอกจากนี้ ยังอาจทำให้มีอาการนอนไม่หลับ สับสน ประสาทหลอนได้ ส่วนอาการปวดหลัง ปวดเอว มักจะไม่ใช่ผลข้างเคียงจากยานี้ แต่มีอาการไม่หาย ก็ควรจะให้แพทย์ตรวจหาสาเหตุดู

๒. อาการมือสั่นที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ (มักจะสั่นขณะเคลื่อนไหว ใช้งาน แต่จะหายสั่นเวลาอยู่นิ่งๆ) จะมีอาการมากขึ้นตามอายุ ถ้าเป็นมาก แพทย์จะให้กินยากลุ่มปิดกั้น บีตา เช่น โพรพราโนลอล (propranolol) ยานี้อาจทำให้ความดันต่ำ ชีพจรเต้นช้า และกระตุ้นให้โรคหืดกำเริบได้ แพทย์จะไม่นำยาที่ใช้รักษาโรคพาร์กินสันมารักษาภาวะนี้

๓. อาการมือสั่นจากคอพอกเป็นพิษไม่ได้ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ แต่เป็นผลมาจากร่างกายมีฮอร์โมนไทรอยด์มากเกิน การรักษาด้วยยาต้านไทรอยด์เพื่อควบคุมฮอร์โมนชนิดนี้ให้อยู่ในระดับปกติ อาการมือสั่นก็จะหายไปได้เองครับ