บทที่ 1
เด็กหัวดี เด็กหัวไม่ดีต่างกันที่ตรงนี้
------------------------------------------------------------
4. เรียนเท่าไรก็หัวไม่ดี
ถ้าอยากมีลูกหัวดีก็ทำให้สวิตช์สมองทำงานเร็ว และสื่อดี เด็กก็จะหัวดี
ก่อนอื่น สิ่งที่เราจะต้องทำคือการฝึกสมองของเด็ก
อย่างไรก็ตาม การเรียนการสอนในโรงเรียนหรือการเรียนพิเศษมิได้ช่วยฝึกสมองเด็กแม้แต่น้อย การเรียนแบบนั้นเป็นการยัดเยียดความรู้เข้าไปโดยมิได้ช่วยให้เด็กหัวดีขึ้น
ในกรณีนี้หัวของเด็กเปรียบเสมือนกระจาด เมื่อไปเรียนหนังสือทางโรงเรียนก็สอนความรู้ต่าง ๆ ความรู้นั้นดุจดังน้ำแก้วหนึ่ง เมื่อเทน้ำใส่ในกระจาดซึ่งมีรูรั่วอยู่เต็ม ความรู้ก็ไหลออกหมด
เมื่อกลับมาบ้าน แม่สั่งให้ลูกดูหนังสือขยันเรียน เท่ากับเทน้ำใส่กระจาดลงไปอีกหนึ่งแก้ว เมื่อยังไม่พอก็พาลูกไปเรียนพิเศษเพิ่มขึ้น นั่นคือเทน้ำใส่กระจาดเพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งปี๊บ
แต่ในเมื่อกระจาดไม่สามารถเก็บกักน้ำไว้ได้ ไม่ว่าเราจะเทน้ำปริมาณมากเท่าใดใส่ลงไป น้ำก็ไหลออกหมด ไม่มีความหมายอะไรเลย
ถ้าอยากมีลูกหัวดีจริง ๆ ก่อนอื่นเราต้องจัดการกับกระจาดเสียก่อน หากปล่อยทิ้งไว้ กระจาดก็ยังคงเป็นกระจาดรั่วเรื่อยไป จำเป็นต้องเปลี่ยนกระจาดให้เป็นถังใส่น้ำใบใหญ่ซึ่งไม่รั่วเสียก่อน
เมื่อเรามีถังดีไม่รั่ว จะใส่น้ำหรือความรู้ลงไปเมื่อไรก็ได้ เป็นผู้ใหญ่แล้วก็ยังใส่ได้ เพราะสามารถจดจำความรู้เหล่านั้นได้ดี
แต่ตัวถังบรรจุนี่สิ เราต้องรีบสร้าง รอไม่ได้ มิใช่ว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วจะสร้างไม่ได้เอาเสียเลย แต่มันเสียเวลาและให้ผลช้าด้วย เพราะมันกลายเป็นกระจาดไปเสียแล้ว ผมจึงคิดว่า ช่วงวัยเด็กนี่แหละเป็นช่วงสำคัญซึ่งเรามีโอกาสฝึกสมองให้เป็นถังใบใหญ่ ไม่รั่ว คุณภาพดี
หากสร้างถังได้สำเร็จ ก็จะเก็บกักความรู้เอาไว้ได้
ผมมิได้ต่อต้านระบบการศึกษาในโรงเรียน และไม่คัดค้านการให้เด็กเรียนพิเศษด้วยครับ ผมสนับสนุนเด็กที่ขยันเรียน และใฝ่หาความรู้เพิ่มเติมอย่างยิ่ง อย่างไรก็ดี ความรู้เหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ หรือภาษาต่างประเทศ ล้วนเป็นซอฟต์แวร์ทั้งสิ้น แม้ซอฟต์แวร์จะดีสักเพียงใด หากตัวคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นฮาร์ดแวร์ใช้การไม่ได้ดี ย่อมทำงานไม่ได้
หัวคนก็เช่นเดียวกัน หากมุ่งหน้าแต่โปะความรู้ต่างๆลงไป โดยที่หัวยังคงเป็นกระจาด ซึ่งดูดซับอะไรไม่ได้ ย่อมไม่บังเกิดผล
มีเด็กบางคนซึ่งกลับจากโรงเรียนถึงบ้านก็โลดแล่นออกไปเล่นข้างนอกจนเย็นค่ำ อยู่บ้านไม่เคยนั่งโต๊ะเขียนหนังสือนานเกินกว่า 5 นาที แต่คะแนนการเรียนกลับดีเยี่ยม เด็กแบบนี้แสดงว่าหัวดี คือเป็นถังใบใหญ่ไม่รั่ว สิ่งที่เรียนในโรงเรียนแกสามารถดูดซับไว้ได้หมด ไม่ต้องเรียนพิเศษก็สอบได้คะแนนดี
แต่เด็กประเภทหัวกระจาด ต่อให้มีครูมาสอนพิเศษที่บ้าน คะแนนเรียนก็ไม่ดีขึ้น แม้ว่าเจ้าตัวจะขยันยอมอดนอนท่องหนังสือ พยายามจดจำทุกตัวอักษร แกอาจจะจำได้เพียงชั่วสัปดาห์เดียว หลังจากนั้นก็ลืมหมด เพราะความรู้ไหลออกจากรูรั่วของกระจาดหมดแล้ว
ถ้าอยากให้ลูกเรียนเก่ง แทนที่จะคอยควบคุมจี้ให้ลูกทำการบ้านบ้าง ท่องหนังสือหรือเรียนพิเศษมาก ๆ หันมาคิดหาวิธีช่วยให้ลูกหัวดี เปลี่ยนจากกระจาดมาเป็นถังใบใหญ่จะดีกว่า
5. หัวคนยิ่งฝึกยิ่งดี
ทำอย่างไรจึงหัวดี?
ทำอย่างไรกระจาดจึงเปลี่ยนเป็นถังใบใหญ่ไม่รั่ว?
ทั้งนี้เราต้องทำให้สวิตช์เชื่อมเซลล์สมองทำงานเร็ว และสื่อกันได้ดี
กล้ามเนื้อนั้นยิ่งฝึกยิ่งแข็งแรงและพัฒนา แม้แต่นักวิ่งระดับทำสถิติโลก หากเกียจคร้านไม่ฝึกซ้อมเพียงชั่วเวลา 3 เดือน กล้ามเนื้อจะอ่อนแอลง ไม่สามารถวิ่งได้เร็วเหมือนเดิม
หัวคนก็เช่นเดียวกัน ยิ่งฝึกจะยิ่งดีขึ้น ถ้าปล่อยให้พักอยู่เรื่อย ๆ มันจะเสื่อมถอย ถังใบใหญ่กลับกลายเป็นกระจาดตามเดิม
วิธีการฝึกสมอง มิใช่การยัดเยียดความรู้เข้าไป เพราะไม่มีประโยชน์อะไร ไม่ทำให้หัวสมองดีขึ้น ยิ่งท่องจำเป็นนกแก้วนกขุนทอง ยิ่งทำให้สมองอ่อนล้ามากขึ้นเท่านั้นเอง
เราต้องฝึกอย่างเป็นวิทยาศาสตร์โดยไม่มีสิ่งสูญเปล่า ทำให้สวิตช์สมองสับเร็วและสื่อดี ซึ่งจะทำให้สมองดีขึ้นตามลำดับ
ถ้าต้องการให้สวิตช์สมองสับเร็ว ควรฝึกความสามารถในการคำนวณ และความสามารถในการจดจำ
แต่ฝึกเพียงเท่านั้นยังไม่ค่อยเห็นผล สภาพแวดล้อมก็เป็นตัวประกอบสำคัญประการหนึ่ง ถ้าเด็กได้อยู่ในสภาพแวดล้อมและมีชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งกระตุ้นการทำงานของสมอง สวิตช์สมองของเด็กก็จะทำงานเร็วขึ้นเอง
การออกกำลังกายก็ดี แต่ทั้งนี้มิใช่การออกกำลังกายเพื่อฝึกกล้ามเนื้อ เราออกกำลังกายเพื่อฝึกสมองไม่ใช่ทำอะไรก็ได้ เรามีทั้งการออกกำลังกายซึ่งช่วยให้หัวดี และการออกกำลังกายที่ดีสำหรับกล้ามเนื้อแต่ไม่ดีสำหรับสมอง การออกกำลังกายแบบไหนดี สำหรับสมองนั้นผมจะกล่าวถึงโดยละเอียดในภายหลัง (บทที่ 5)
การที่จะทำให้สวิตช์สมองสื่อดีเราต้องทำให้มันสมองมีคุณภาพดี โดยการเลือกกินอาหารและเครื่องดื่มซึ่งบำรุงสมอง ที่แล้วมาคนเรามักกินเมื่อหิว กินเพราะอร่อย หรือกินเพราะเป็นของโปรด กล่าวคือ เรากินเพื่อปากหรือท้องเท่านั้น ไม่สนใจว่าอาหารเหล่านั้นจะช่วยเพิ่มคุณภาพของมันสมอง ทำให้สื่อดีขึ้น หรือทำให้เลวลงหรือไม่
ถ้าอยากหัวดี ต้องกินอาหารและเครื่องดื่มที่ดีสำหรับสมอง สร้างชีวิตการกินเพื่อสมอง อาหารและเครื่องดื่มประเภทใดดีหรือไม่ดีต่อสมองอย่างไร ผมจะอธิบายอย่างละเอียดต่อไป (บทที่ 4)
หากคุณฝึกลูกจนกระทั่งสับสวิตช์ได้เร็วและสื่อดี มั่นใจได้ว่า ลูกของคุณจะหัวดีแน่นอน
- อ่าน 4,763 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้